posttoday

เกาะล้าน น้ำทะเลเปลี่ยนสี เกิดจากแพลงก์ตอนบลูม ไม่เป็นอันตรายต่อคน

30 กรกฎาคม 2566

กรมทะเลชายฝั่ง เผยน้ำทะเลเปลี่ยนสีเกาะล้าน เกิดจากปรากฎการณ์ แพลงก์ตอนบลูม ผลตรวจสอบคุณภาพน้ำแล้วไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและผู้ลงเล่นน้ำทะเล แต่เฝ้าระวังติดตามใกล้ชิดแนะร่วมกันอย่าปล่อยน้ำเสียลงทะเลในช่วงฤดูฝน

นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีบริเวณหาดตาแหวน เกาะล้าน จังหวัดชลบุรีแล้วพบว่า  เกิดจากการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืชกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellate) ชนิด Noctiluca scintillans ซึ่งไม่สร้างสารชีวพิษ ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและผู้ลงเล่นน้ำทะเล

"เบื้องต้นพบว่าน้ำทะเลมีสีเขียว และกลิ่นเหม็น จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้นมีค่าอุณหภูมิ 30.1-31.2 องศาเซลเซียส ความเค็ม 30.9-31.8 ppt (ส่วนในพัน) ความเป็นกรดและด่าง 8.16-8.31 และออกซิเจนละลาย 4.20-7.69 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ" นายอภิชัย กล่าว  
 

เกาะล้าน น้ำทะเลเปลี่ยนสี เกิดจากแพลงก์ตอนบลูม ไม่เป็นอันตรายต่อคน

นายอภิชัย แพลงก์ตอนบลูม หรือขี้ปลาวาฬ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใน1ปีจะเกิดขึ้น 2-3 วัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวมาจากการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเลมักเกิดในช่วงฤดูหากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องและมีคลื่นลมแรงเป็นเวลาหลายวันจะไปชะล้างธาตุอาหารที่อยู่ในพื้นดินบริเวณชายฝั่งลงสู่ท้องทะเลทำให้แพลงก์ตอนได้รับสารอาหารและเกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเมื่อออกซิเจนในน้ำทะเลหมดลง แพลงก์ตอนก็จะตายจนทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีต่างๆ เช่น น้ำตาล สีแดง สีเขียว หรือสีดำขุ่น

เกาะล้าน น้ำทะเลเปลี่ยนสี เกิดจากแพลงก์ตอนบลูม ไม่เป็นอันตรายต่อคน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศวทอ. เฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และชาวประมงในพื้นที่และอยากฝากพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และชาวประมง ว่าอย่าปล่อยหรือทิ้งของเสียลงแม่น้ำ ให้ช่วยกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้คงความอุดมสมบูรณ์โดยหากใครพบเห็นปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี พบสัตว์ทะเลเกยตื้น และการทำประมงผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงที ต่อไป