posttoday

ตำรวจแฉเล่ห์แก็งคอลเซ็นเตอร์ส่งSMSดูดเงินโมบายแบงก์กิ้ง

30 พฤษภาคม 2566

ตำรวจเตือนภัยแก็งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยส่งข้อความ SMS เปิดขั้นตอนลวงเหยื่อโหลดแอปพลิเคชันควบคุมมือถือแล้วโอนเงินออกจากโมบายแบงก์กิ้ง รับแจ้งความ 1,398 เคส มูลค่าความเสียหายกว่า200 ล้านบาท

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  และพล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงข่าวเตือนภัยมิจฉาชีพรับจ้างแก็งคอลเซ็นเตอร์ส่งข้อความสั้น (SMS) หลอกเหยื่อโหลด แอปพลิเคชันควบคุมเครื่องโทรศัพท์แล้วโอนเงินออกจาก Mobile Banking ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 พ.ค.2566)  มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ4 จากจำนวน 5 อันดับ ได้แก่  อันดับ 1 คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ อันดับ 2 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ   อันดับ3 คดีหลอกลวงให้กู้เงินและอันดับ5คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) ถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องย้ำเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ  

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด   ผบก.ตอท.บช.สอท.กล่าวว่า ถึงรายละเอียดภัยออนไลน์ที่มิจฉาชีพรับจ้างแก็งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) นำเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ส่งข้อความสั้น(SMS)หลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้ SIM BOX  โทรศัพท์จากต่างประเทศผ่านระบบ VOIP หรือส่งผ่านอีเมลผ่านบริษัทรับส่งข้อความสั้น (SMS) แต่ในรอบเดือนที่ผ่านมา มิจฉาชีพนำเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ใส่ไว้ในรถขับไปเส้นทางต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล แล้วส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โดยใช้ชื่อผู้ส่งเป็นสถาบันการเงิน ส่งข้อความสั้น (SMS) ว่า “มีผู้เข้าสู่ระบบธนาคารของผู้เสียหายจากอุปกรณ์อื่น หากไม่ได้ดำเนินการด้วยตนเอง ให้ผู้เสียหายติดต่อธนาคารผ่านลิงก์ไลน์(Line)ทันที”และมีผู้เสียหายหลงเชื่อกดลิงก์เพิ่มเพื่อนไลน์ แล้วคนร้ายจะโทรผ่านไลน์หลอกให้กดลิงก์โหลดแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องโทรศัพท์ และโอนเงินออกจาก Mobile Banking  ของผู้เสียหาย ในห้วงเดือน เม.ย. -พ.ค. 2566 มีการแจ้งความออนไลน์ จำนวน 1,398 เคส รวมมูลค่าความเสียหาย 235,135,988.50 บาท 

ในช่วงแรกมิจฉาชีพต้องการให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนไลน์เพื่อหลอกลวงด้วยการพูดคุยตลอดเวลาให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและทำตามขั้นตอน  จากนั้นจะพยายามส่งลิงก์ผ่านไลน์เพื่อให้ผู้เสียหายกดโหลดแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องโทรศัพท์   โดยมิจฉาชีพจะคอยแนะนำขั้นตอนต่างๆ  ทีละขั้นตอน   เนื่องจากการกดยอมรับแอปพลิเคชันให้ควบคุมเครื่องโทรศัพท์นั้น  มีขั้นตอนยุ่งยาก ผู้เสียหายไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ต้องทำตามคำแนะนำของคนร้าย และเมื่อผู้เสียหายกดยินยอมขั้นตอนสุดท้ายแล้ว  หน้าจอจะมีข้อความเป็นเปอร์เซ็นต์หรือข้อความกำลังอัพเดด กรุณารอสักครู่  ช่วงนี้มิจฉาชีพจะทดลองเข้าแอปพลิเคชันธนาคารจากรหัสที่เราตั้งในแอพ หรือจากเบอร์โทรศัพท์ของเรา โอนเงินออกจากบัญชี Mobile Banking  ของผู้เสียหาย  หากเข้าไม่ได้ก็จะหลอกให้โอนเงินไปลงทะเบียน หรือโอนระหว่างบัญชี ซึ่งคนร้ายจะเห็นว่าเรากดรหัสอะไร 
            
จุดสังเกต   
1) มิจฉาชีพส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมแนบลิงก์สวมรอยช่องทางปกติในการส่งข้อความจาก 
ธนาคาร และใช้ชื่อไลน์คล้ายกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือหน่วยงาน 
2) มิจฉาชีพส่งข้อความสั้น (SMS) ขณะขับรถไปตามเส้นทางต่างๆ แสดงว่าทุกคน ทุกอาชีพมี 
โอกาสได้รับข้อความสั้น (SMS) และตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 
3) พนักงานธนาคาร  ไม่ใช้ไลน์ส่วนตัวในการติดต่อลูกค้า 
4) เว็บไซต์ปลอมที่มิจฉาชีพให้กดโหลดแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องโทรศัพท์นั้น  สามารถกดได้ 
เฉพาะเมนูดาวน์โหลด เมนูอื่นๆ เมื่อกดแล้วจะไม่ขึ้นข้อมูลใดๆ  
4) ธนาคารไม่มีนโยบายการส่งข้อความ SMS แบบแนบลิงก์ทุกชนิด หรือมีข้อความให้แอดไลน์ 
ไอดี  หรือเพิ่มเพื่อนในไลน์ 
     
วิธีป้องกัน  

1) ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ 
ติดตั้ง  
2) กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ  ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับ สายด่วนของธนาคารหรือ 
หน่วยงานนั้นๆ โดยตรง  
3) หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ  
Apple Store  เท่านั้น  อย่าเชื่อคำแนะนำของคนร้ายให้กดเข้าบราวเซอร์อื่น 
4) มิจฉาชีพอาจใช้วิธีการหลอกลวงในรูปแบบให้สแกน QR Code หรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID  Line จึงไม่ควรสแกนหรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID Line จากคนที่ไม่น่าเชื่อถือ 
 
จากข้อมูลสถิติรับแจ้งความออนไลน์พบว่า  หลังจากแก็งคอลเซ็นเตอร์ (call center) ถูกจับกุมแล้ว  ปรากฏว่ายังมีสถิติการรับแจ้งความมิจฉาชีพส่งข้อความสั้น (SMS) แอบอ้างสถานบันการเงิน  การไฟฟ้า ประปา และหน่วยงานอื่นหลอกลวงประชาชนอยู่  เนื่องจากยังมีแก็งคอลเซ็นเตอร์(call center) จำนวนหนึ่งยังไม่ถูกจับกุมตัวดำเนินคดี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจึงขอแจ้งเตือนให้ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารถึงวิธีการของมิจฉาชีพ และให้ตระหนักไว้ว่าหากมี SMS  แปลกปลอม  ต้องไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ  ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับ สายด่วนของธนาคารหรือหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง หรือไปติดต่อหน่วยงานนั้นๆ  ด้วยตนเอง

ที่สำคัญหากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store  เท่านั้น และเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ และเพจ เตือนภัยออนไลน์ หรือโทรสายด่วน 1441