"เอ็มดีตลท."ชี้หุ้นไทยร่วงเพราะต่างชาติปรับพอร์ตถือเงินสด

กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยหุ้นไทยปรับลง 40 จุด เพราะต่างชาติมีการปรับพอร์ตครั้งใหญ่ถือเงินสด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้นไทยมีการปรับลง 40.14 จุด และลดลง 2.39% ถือเป็นผลกระทบเหมือนกันทุกตลาดหุ้นทั่วโลก และไม่ใช่แค่ตลาดประเทศเกิดใหม่ เอเชีย และอาเซียน โดยวันนี้ตลาดหุ้นฐี่ปุ่น จีน ไต้หวันก็มีการปิดลบเช่นกัน อีกทั้งเม็ดเงินต่างชาติก็ไม่ได้ไหลเข้าไปยังตลาดตราสารหนี้เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาซึ่งปกติถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่เป็นเพราะต่างชาติมีการถือเงินสดเพื่อรอการกลับไปลงทุนใหม่อีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์ที่นักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตครั้งใหญ่นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาในรอบ 2-3 ปี ที่ผ่านมา

"ตอนนี้นักลงทุนต้องมีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัยต่างประเทศมากกว่าปัจจัยในประเทศ โดยปัจจัยพื้นฐานในประเทศยังไม่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วงจากตัวเลขไตรมาส 1 ที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการบริโภคมีแต่ทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งปกติถ้าตลาดหุ้นมีการฟื้นตัวกลับมามีโอกาสจะกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยสถิติที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากหลายสถานการณ์ที่ผ่านมา เช่น ปิดสนามบิน 2551 ใช้เวลาฟื้นตัว 2-3 เดือน เหตุการณ์การณ์การเมืองราชประสงค์ ปี 2553 ใช้เวลาฟื้น 3 เดือน ระเบิดที่แยกราชประสงค์ปี 2558 ใช้เวลาฟื้น 2 เดือน น้ำท่วมใหญ่ในไทยปี 2554 ฟื้นตัว 6 เดือน ปัญหาหนี้เสียสถาบันการเงินประเทศจีนปี 2558 หุ้นไทยใช้เวลาฟื้นตัว 10 เดือน วิกกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 หุ้นไทยฟื้นตัว 11 เดือน"นายภากรกล่าว

นายภากร กล่าวต่อว่า การฟื้นตัวการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติครั้งนี้บอกไม่ได้ว่าจะใช้ระยะเวลานานเท่าไร เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการลดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของธนาคารกลางยุโรป