posttoday

ก.ล.ต.เตือนหลอกลงทุนเหมืองบิตคอยน์

19 กุมภาพันธ์ 2562

ก.ล.ต.เตือนประชาชนถูกหลอกลงทุนขุดเหรียญดิจิทัลผ่านโซเชียลมีเดีย ด้านผู้เสียหายถูกโกงบิตคอยน์บุกแจ้งความกองปราบ

ก.ล.ต.เตือนประชาชนถูกหลอกลงทุนขุดเหรียญดิจิทัลผ่านโซเชียลมีเดีย ด้านผู้เสียหายถูกโกงบิตคอยน์บุกแจ้งความกองปราบ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการถูกหลอกลวงด้วยการชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่าเป็นบริษัทรับขุดเหรียญดิจิทัล ซึ่งเป็นสาขาจาก ต่างประเทศ และมีที่ตั้งอยู่ในไทย

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ระบุว่า ขอเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังอย่าหลงเชื่อ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อน เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง และอาจตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงหรือแชร์ลูกโซ่ โดย ผู้ชักชวนมักอ้างผลตอบแทนสูงเพื่อเร่งรัดการตัดสินใจ ซึ่งประชาชนควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการลงทุนดังกล่าว

"ก.ล.ต.ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อให้ความรู้และเตือนภัยที่เกี่ยวข้องที่ไมโครไซต์ https://เสี่ยงสูง.com/ และผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับ การดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้ง Help Center ของ ก.ล.ต.ที่โทร. 1207 กรณีที่ตรวจพบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินการหรือประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด" รายงานข่าวของ ก.ล.ต.ระบุ

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ได้มีกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนบิตคอยน์ประมาณ 30 คน รวมตัวเข้าร้องเรียนกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หลังร่วมลงทุนบิตคอยน์ผ่านเว็บไซต์ Cryptominingfarm ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท ไลฟ์ไทม์ เทคโนโลยี ที่มีนายพิมงคล ท้าวภิบาล เป็นเจ้าของ เบื้องต้นมีผู้เสียหายแล้วกว่า 140 คน โดยร่วมลงทุนตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้านบาท มีมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 42 ล้านบาท ทั้งนี้ มี พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ศรีวารีรัตน์ ผกก.สส.บก.น.5 รับมอบหนังสือ

นายเทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์ หรือจอห์นสัน นักแสดงวัยรุ่น หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้าจะเข้าร่วมลงทุนได้ตรวจสอบบริษัทนี้ว่า มีสำนักงานทั้งที่เมืองทองธานีและ จ.เชียงใหม่ ดูน่า เชื่อถือ อีกทั้งเคยลงทุนลักษณะนี้มาก่อน จึงร่วมลงทุนและได้รับผลตอบแทนกลับมาและลงทุนเพิ่ม แต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเริ่มระแคะระคาย เมื่อไม่มีการจ่ายผลตอบแทนตามที่ได้รับสัญญา จึงรวมตัวกับผู้เสียหายอื่นๆ เข้าร้องเรียน พร้อมฝากถึงประชาชนว่า ปัจจุบันการลงทุนมีทั้งได้รับผลตอบแทนจริงและลักษณะหลอกลวง จึงควรศึกษาให้รอบคอบ และพร้อมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ผู้เสียหายรายหนึ่งกล่าวว่า ได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้ลงทุนตั้งแต่ช่วงปี 2560 โดยมีการการันตีผลตอบแทนว่าจะได้ 70% ต่อสัญญา ซึ่งแต่ละสัญญามีช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ไปจนถึงตลอดชีวิต และสามารถถอนได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข กระทั่งตั้งแต่เดือน ส.ค. 2561 ทางบริษัทเริ่มเพิ่มเงื่อนไขในการถอนเงิน กระทั่ง วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางบริษัทแจ้งว่าจะทยอยจ่ายเงินคืนผู้ลงทุน 84 งวด หรือประมาณ 7 ปี ในสกุลเงินอื่น ที่ไม่ได้รับการรองรับตามกฎหมายไทย