เงินบาทอ่อนค่าลงไม่หยุด แบงก์คาดลากยาวอีก5-6เดือน

แบงก์ชี้ค่าเงินบาทไทยยังอ่อนค่าต่อเนื่อง หลังจากทำสถิติอ่อนมากสุดในรอบ 8 เดือน

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ค่าเงินบาททะลุ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาจากสิ้นเดือน พ.ค. อยู่ที่ 32 บาท/ดอลลาร์ แต่หากดูตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เงินบาทอ่อนค่าเป็นอันดับที่ 7 ของภูมิภาค และยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 2560 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 33.96 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค จากกระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงประเทศตลาด เกิดใหม่ โดยเฉพาะในเดือน พ.ค.ที่ อาจจะมีเงินทุนไหลออกมากอย่างมีนัยสำคัญ จากการโอนเงินตามฤดูกาลส่งกลับรายได้และเงินปันผลของธุรกิจต่างชาติออกนอกประเทศ กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง

"อัตราความผันผวนของค่าเงินบาท ณ วันที่ 22 มิ.ย. 2561 อยู่ที่ 6.02% ซึ่งเป็นระดับที่ผันผวนสูง แต่เมื่อเทียบกับภูมิภาคแล้ว ค่าเงินบาทถือว่ามี ความผันผวนอยู่กลางตาราง" นายดอน กล่าว

สำหรับเดือน พ.ค. ทุนเคลื่อนย้ายเป็นการไหลเข้าสุทธิเล็กน้อย 65 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 5 เดือนแรก เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิ 2,857 ล้านดอลลาร์ ตามทิศทางขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก แม้โดยตัวเลขการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (เอฟดีไอ) สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ปริมาณการขายสินทรัพย์ทุนมากกว่า ทั้งการขายออกในตราสารหนี้ และตราสารทุน โดยทิศทางเงินไหลออกยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องมาถึง มิ.ย.นี้

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่า 3.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อ่อนค่ามากที่สุดในภูมิภาค แต่ยังไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค คาดว่าสถานการณ์อ่อนค่าจะยังคงอยู่ในช่วง 5-6 เดือนนับจากนี้ โดยระดับที่อ่อนค่าสุดตั้งไว้ที่ 32.5 บาท จากประมาณการเดิมที่ 32 บาท/ดอลลาร์ หลังจากนั้นตลาดจะปรับตัวและกลับมาสู่สภาวะที่แท้จริงตามพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง

"เงินลงทุนไหลออกจะยังมีอีก 1-2 เดือน จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติในไตรมาส 3 ส่วนการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต้นปีหน้า" นายอมรเทพ กล่าว