ยาสูบกำไรวูบ7พันล้าน
โรงงานยาสูบเจอพิษภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ ทำกำไรวูบ 7,000 ล้าน กระทบโบนัสพนักงานรุนแรง
โรงงานยาสูบเจอพิษภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ ทำกำไรวูบ 7,000 ล้าน กระทบโบนัสพนักงานรุนแรง
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า อัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จะมีผลทำให้โรงงานยาสูบต้องปรับเพิ่มราคาบุหรี่ทั้ง 16 ยี่ห้อที่ขายอยู่ในตลาด เนื่องจากมีภาระภาษีเพิ่มมากขึ้น จากเดิมเสียภาษีซองละ 25-40 บาท เป็นซองละไม่ต่ำกว่า 50 บาท
น.ส.ดาวน้อย กล่าวว่า ภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นแต่ไม่สามารถเพิ่มราคาขายปลีกได้เกินซองละ 60 บาท ทำให้รายได้ลดลงอย่างมากจากปีงบประมาณ 2559 และ 2560 มีกำไรปีละ 9,000 ล้านบาท จะเหลือกำไรในปี 2561 จำนวน 2,000 ล้านบาท โดยโรงงานยาสูบได้ทำเรื่องถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอชดเชยไม่ให้กระทบโบนัสพนักงาน
"การขึ้นภาษีบุหรี่ทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้นเป็นเรื่องที่ดี แต่โรงงานยาสูบก็ได้ผลกระทบทั้งที่ทำตามนโยบายของรัฐมาโดยตลอด ได้คะแนนประเมินการทำงานถึง 4.5 คะแนน"น.ส.ดาวน้อยกล่าว
ที่ผ่านมายาสูบมีกำไรสูงถึง 9,000 ล้านบาท ทำให้พนักงานได้โบนัสถึง 7 เดือน หากกำไรลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท หรือหายไป 7,000 ล้านบาท จะทำให้คะแนนประเมินตกลงและพนักงานอาจจะได้โบนัสเหลือแค่ 1-2 เดือน ซึ่งอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแล เนื่องจากพนักงานจะได้รับความเดือดร้อน
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากโรงงานยาสูบเพื่อให้ช่วยเหลือดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีบุหรี่ใหม่แล้ว