posttoday

ธปท.คาดปลายปีดอกเบี้ยเงินฝากเริ่มขยับขึ้น

15 สิงหาคม 2560

ธปท.เผยอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานต่อเนื่อง ทำให้เงินฝากขยายตัวน้อยลง คาดปลายปีจะเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อย

ธปท.เผยอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานต่อเนื่อง ทำให้เงินฝากขยายตัวน้อยลง คาดปลายปีจะเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานปริมาณเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินทั้งระบบ รวมธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐในเดือน มิ.ย.นี้ ว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.9% มียอดเงินฝากรวมอยู่ที่ 18.26 ล้านล้านบาท ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัว 4.8% อัตราส่วนของสินเชื่อต่อเงินฝากและตั๋วแลกเงินอยู่ที่ 96.52%

ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณเงินฝากที่ขยายตัวเพิ่มได้น้อยลง ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ลดลงต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 12 เดือนเฉลี่ยในปี 2558 อยู่ที่ 1.59% แต่ในเดือน มิ.ย.เฉลี่ยที่ 1.36% เป็นผลมาจากธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐไม่มีการเร่งระดมเงินฝาก ไม่มีการออกแคมเปญระดมเงินฝากพิเศษ เนื่องจากสินเชื่อโดยภาพรวมยังขยายได้ไม่มากนัก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยปี 2558 ถึงเดือน มิ.ย.ปีนี้ลดลงเพียง 0.01% จาก 7.25% เหลือ 7.15%

อย่างไรก็ดี ธปท.มองว่า การขยายตัวของเงินฝากจะปรับดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากสินเชื่อในครึ่งปีหลังจะปรับดีขึ้นได้ตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐ จึงน่าจะเห็นสถาบันการเงินออกแคมเปญระดมเงินฝากเพื่อเตรียมไว้ปล่อยกู้ในครึ่งปีหลังและปีหน้ามากขึ้น โดยคาดว่าสินเชื่อปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 4-6% ตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน

แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษของธนาคารพาณิชย์ในครึ่งหลังของปีนี้ จะมีการระดมเงินฝากตามความจำเป็น เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งมีนโยบายที่ต่างกันและมีการขยายสินเชื่อมากน้อยแตกต่างกัน ธนาคารใดที่สินเชื่อขยายตัวมากก็อาจจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว

ก่อนหน้านี้ นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะมีการระดมเงินฝากเพิ่มขึ้นสวนทางกับตลาดที่สภาพคล่องตึง เพื่อรองรับแผนการขยายสินเชื่อ หลังจากสิ้นเดือน มิ.ย. 2560 สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากและเงินกู้ยืม (Loan To Deposit) อยู่ที่ 114% สูงกว่าธนาคารอื่น

นายพงษ์อนันต์ ระบุว่า ธนาคารจะมุ่งเน้นเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน (CASA) ที่ต้นทุนการเงินต่ำเป็นหลัก โดยปีนี้ตั้งเป้าเงินฝากขยายตัว 7% จากปัจจุบันที่มีเงินฝาก 1.16 ล้านล้านบาท โดยเห็นว่าในช่วงนี้นับเป็นจังหวะที่ดีจากดอกเบี้ยนโยบายอยู่ระดับต่ำไปจนถึงสิ้นปีนี้ และการแข่งขัน ระดมเงินฝากไม่รุนแรง เพราะการปล่อยสินเชื่อทั้งระบบเติบโตไม่มากนัก