รัฐวิสาหกิจส่งเงินคลังเพิ่ม

รัฐวิสาหกิจโชว์ผลงาน นำส่งรายได้ 8 เดือน ปีงบประมาณ'60  1.22 แสนล้าน สูงกว่าเป้า 2.4 หมื่นล้าน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ยอดนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจในเดือน พ.ค. 2560 สคร.มีจำนวนกว่า 2.57 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 9,984 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค. 2559-พ.ค. 2560) สคร.นำส่งรายได้แผ่นดินรวม ทั้งสิ้น 1.22 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายจำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่า เป้าหมายคิดเป็น 25%

ทั้งนี้ สคร.กำหนดเป้าหมายนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 2560 ไว้ที่ 1.3 แสนล้านบาท คาดว่าเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณในเดือน ต.ค. 2560 นี้ยอดนำส่งรายได้น่าจะอยู่ที่ระดับกว่า 1.4 แสนล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่เป้าหมายการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจในการจัดทำกรอบงบประมาณปี 2561 ทาง สคร.ได้เสนอไว้ที่ 1.37 แสนล้านบาท โดยสาเหตุที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผลดำเนินงานและการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้นำส่งของ สคร.ด้วย

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร.ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุหลักที่รัฐวิสาหกิจนำส่ง รายได้แผ่นดินสูงกว่าเป้าหมายในช่วง 8 เดือนแรก เนื่องจากประสิทธิภาพ การดำเนินงานและผลประกอบการ ของรัฐวิสาหกิจในปีที่ผ่านมาดีขึ้น จึงนำ ไปสู่การนำส่งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำส่งรายได้รวมกว่า 2.16 หมื่นล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำส่ง รายได้ 1.88 หมื่นล้านบาท บริษัท ปตท. นำส่งรายได้ 1.45 หมื่นล้านบาท ธนาคารออมสิน นำส่งรายได้ 1.31 หมื่นล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำส่งรายได้ 1.13 หมื่นล้านบาท

ขณะที่รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในแผนฟื้นฟู มีเพียง กสท.ที่สามารถนำส่งรายได้เข้ามาเป็นแห่งแรกจำนวน 1,200 ล้านบาท และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เดือนนี้ คาดว่าทางคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการ จะเสนอธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ให้กระทรวงการคลัง พิจารณารับ เอสเอ็มอีแบงก์ กลับไปดูแลเอง หากคลังเห็นชอบก็ให้มีผลในเดือน มิ.ย.นี้