เงินเฟ้อกดดันดอกเบี้ย

ทีดีอาร์ไอคาดอาจมีเซอร์ไพรส์จาก ธปท. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในปีนี้ เหตุเงินเฟ้อเริ่มขยับ ด้านกสิกรมองเฟดขึ้น2ครั้ง

น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ไม่น่ากังวล คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โลกน่าจะเติบโตดีขึ้นจาก 2.3% ในปีที่แล้วเพิ่มเป็น 2.7% และเศรษฐกิจสหรัฐจาก 1.6% เพิ่มเป็น 2.2% ส่วนจีนอาจจะโตลดลงบ้างแต่ยังสูงที่ 6.2% จากการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของโลก ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับขึ้น โดยราคาน้ำมันคาดว่าจะปรับจาก 43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปีที่แล้วเป็น 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ ทำให้เงินเฟ้อให้ขยับขึ้น  ดังนั้นอาจจะทำเห็นอัตราดอกเบี้ยไทยปรับขึ้นสัก 1 ครั้ง ที่ 0.25% ก็เป็นได้ จากเดิมที่คาดว่าไม่น่าจะขึ้นเลย

ด้านเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น จากส่งออกที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของสหรัฐที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของสินค้าไทยที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากตลาดอาเซียน โดยส่งออกไทยปีนี้คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มเป็น 3% จากปีที่แล้วโตระดับ 0.5% โตได้จากทั้งปริมาณและราคาที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นว่านโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มา กระทบอาจจะไม่ถึง

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 2 ครั้งในเดือน มี.ค.กับเดือน ก.ย. 2560 หากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง อาจจะส่งผลกระทบกับสหรัฐเอง ทั้งด้านต้นทุนการกู้เงินสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลสหรัฐมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐแข็งค่าขึ้นเร็วเกินไป จะกระทบเศรษฐกิจของสหรัฐเองและจะกระทบกับผลกำไรของบริษัทสหรัฐที่กว่า 19% ของจีดีพี มาจากการลงทุนในต่างประเทศลดน้อยลงและมีผล กระทบเชิงลบกับตลาดหุ้นสหรัฐเอง

ขณะเดียวกันคาดว่าในปีนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตลอดทั้งปีเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึง ธปท.เองก็เกรงว่านักลงทุนจะหันไปลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น