หุ้นไทยพักฐานปิดร่วง9จุด

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 64 ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนปิดที่ระดับ 1,510.13 จุด ลดลง 9.00 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 74,438.29 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,515.51 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,503.04 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งพักฐาน จาก Sentiment ต่างประเทศที่ไม่ดี โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบน เช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ติดลบเฉลี่ย 0.3% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบ หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเป็นแรงหนุนให้เงินไหลออกจากเอเชีย

คาดว่าจะรับผลจากที่นางเจเน็ต เยเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งต่างจากสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ต้องการให้ดอลลาร์อ่อนค่า จึงทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เพราะมีกระแสคาดการณ์ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะเร็วกว่าคาด

ส่วนตลาดบ้านเราก็ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วทำให้ Upside เหลือน้อย ไม่สร้างความน่าสนใจ โดย 3 เดือนที่ผ่านมาดัชนีฯปรับขึ้นไป 30% และช่วงนี้ก็ปรับตัวลงมาแค่ 40-50 จุดคิดเป็นประมาณ 3-4% เท่านั้น พร้อมมองรอบซื้อน่าจะอยู่แถว 1,480-1,450 จุดสำหรับรอบนี้

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ต่อไป และในช่วงปลายสัปดาห์จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะพักฐาน โดยมีแนวรับ 1,500-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,519.17 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 3,142.73 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,540.45 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,532.24 ล้านบาท ปิดที่ 83.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,298.58 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท