posttoday

SCBSมองหุ้นไทยไตรมาส2ผลตอบแทนจำกัดหลังฟื้นตัวเร็ว

27 เมษายน 2563

SCBS จับทิศทางไตรมาส 2 หลังตลาดฟื้นตัวกลับมาเร็ว ทำให้ผลตอบแทนเริ่มจำกัดแนะซื้อหุ้น Defensive

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในวันที่ 23 มี.ค. 2020 ที่ผ่านมา (SET index ที่ระดับ 1024.46 จุด) ทั้งนี้เฉพาะในเดือน เม.ย. 20 SET index เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว 13% และ ฟื้นตัวสูงถึง 24% จากจุดต่ำสุด (ถือว่าเป็นอัตราการฟื้นตัวที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตในช่วงที่ตลาดหุ้นเกิดวิกฤติ) หลังจากที่เคยปรับตัวลดลงแรงถึง 33% จากจุดสูงสุดช่วงกลางเดือน ม.ค.20 เนื่องจาก ระดับความเสี่ยงโดยภาพรวมทั่วโลกลดลง โดยเฉพาะ ต้นเหตุของวิกฤติครั้งนี้ คือ ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมีอัตราชะลอตัวลง ในขณะที่จำนวนผู้หายป่วยเพิ่มขึ้นตามลำดับ ในหลายๆประเทศรวมถึงไทย รวมถึง ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในตลาดการเงิน และ ความเสี่ยงด้านเครดิต ที่ล้วนปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค.

ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ธนาคารกลางรวมถึงรัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ได้เร่งออกมาตรการเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดการเงิน และ ภาคธุรกิจ รวมถึง มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจและประชาชนที่รวดเร็วและมีขนาดของเม็ดเงินที่สูง (มากกว่า 10% ของ GDP) เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ได้มีการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจมาแล้ว 3 ชุด

ดังนั้น จึงส่งผลทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นและกลับเข้าลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์เพื่อการลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะยังไม่จบ รวมถึงความเสี่ยงต่อเนื่องที่อาจจะตามมาได้อีก เช่น ล่าสุดเกิดขึ้นในตลาดน้ำมันดิบยังคงมีโอกาสกระทบบรรยากาศการลงทุนต่อไป แต่เชื่อว่าด้วยความพร้อมของมาตรการด้านต่างๆ จะทำให้โอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. นั้น มีโอกาสน้อยลงจึงเชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะเกิดขึ้น เร็วและแรงเกินไป ทําให้มีโอกาสสูงที่จะเกิดความผิดหวังถ้าการกลับมาดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องเลื่อนออกไป เพราะเกิดการระบาดระลอกที่สอง ดังนั้นเรามองว่ายังเร็วเกินไปที่ SET จะฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ใน 2Q-3Q20 เนื่องจากคาดว่ากําไรในปี 2021 จะตํ่ากว่าปี 2019 นอกจากนี้กลุ่มอุตสาหกรรมหลายกลุ่มก็เผชิญกับความท้าทายที่จะกลับมาเติบโตในระดับก่อนเกิด โควิด-19 ด้วย เนื่องจากภาพใหญ่ของประเทศไทยอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยตํ่าและการเติบโตต่ำ และหากพิจารณาจากมูลค่าหุ้นปัจจุบันมีระดับ PER ปี 2020 เท่ากับ 16.8 เท่า หรือเท่ากับระดับ +1SD ของค่า PE เฉลี่ย 7 ปี ก็ถือได้ว่าสะท้อนผลการดำเนินงานของปี 2020 ไปมากแล้ว จึงทำให้เราประเมินว่า ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 2/20 เริ่มจำกัด แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว เราประเมินเป้าหมายของ SET Index ในปี 2021 ที่ระดับ 1400-1450 จุด

ทั้งนี้ บล.ไทยพาณิชย์ แนะนักลงทุนเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพ กลยุทธ์การลงทุนในปัจจุบันยังคงแนะนำให้เลือกซื้อหุ้น defensive และ คุณภาพสูง โดยเรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวและอัตราการฟื้นตัวในระยะสั้นยังไม่แน่นอนในสถานการณ์เช่นนี้ แนะนำให้ลงทุนในหุ้น defensive ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจึงยังคงหุ้น top picks ที่เคยแนะนำไว้ในช่วงต้น ไตรมาสที่ 2/20 คือ BDMS BEM BTS CPF และ MINT แม้ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว แต่เชื่อว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก เนื่องจากการดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ในอนาคตอันใกล้นี้ SCBS มีมุมมองระมัดระวังต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และมีความกังวลต่อกลุ่มธนาคารเนื่องจากมีความเสี่ยงด้านกำไรในอนาคตสูง

คาดผลประกอบการฟื้นตัวในรูปแบบตัว U ส่วนตลาดหุ้นเหมือนกำลังฟื้นตัวในรูปแบบตัว V แนะนำเลือกลงทุนกลุ่มที่กำไรสุทธิมีโอกาสฟื้นตัวรูปแบบ V เมื่อประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยกำลังจะกลับมาดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ อย่างน้อยคงทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น หากมีการเริ่มเปิดตั้งแต่เดือน พ.ค.20 ได้ตามที่คาด อย่างไรก็ดี โดยปกติแล้ว GDP มักจะใช้เวลา 5-7 ไตรมาส ก่อนที่จะกลับคืนมาเติบโตตามปกติ นอกจากนี้การฟื้นตัวอย่างเต็มที่ของ EBITDA ก็จะใช้เวลามากกว่า 3 ไตรมาส ในขณะที่ตลาดหุ้นกำลังสะท้อนภาพถึงการฟื้นตัวคล้ายในรูปแบบตัว V มากกว่ารูปแบบตัว U ซึ่งเราประเมินว่าการฟื้นตัวในปัจจุบันนั้นยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจจะสร้างแรงกดดันต่อ upside ของตลาดหุ้นไทยในภาพรวม

ดังนั้น ด้วยระดับราคาในปัจจุบัน SCBS แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่เราคาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวในรูปแบบตัว V เช่น การขนส่งทางบกและราง ภาคการผลิต และ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ในขณะที่ใช้ความระมัดระวังในธุรกิจที่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวรูปแบบตัว U เช่น ธุรกิจสายการบิน ท่าอากาศยาน โรงแรม และ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยว เพราะต้องใช้ความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงในการเดินทาง นอกจากนี้ ผลกระทบต่อจิตวิทยาผู้บริโภคก็สะท้อนถึงปัจจัยกดดันระยะกลางต่ออุตสาหกรรมบางกลุ่ม เช่น พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ยานยนต์ ซึ่งจําเป็นต้องใช้เงินลงทุนจํานวนมากท่ามกลางกําลังซื้อที่ลดลง ความเสี่ยงเรื่องการปรับลดประมาณการกำไรได้มีการสะท้อนผ่านมุมมองของนักวิเคราะห์ไปบ้างแล้ว

สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2020 โดยพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดได้มีการปรับลดประมาณการไปบ้างแล้วแต่อาจยังไม่ต่ำสุด ทั้งนี้ คงต้องรอดูข้อมูลและสถานการณ์ของโควิด-19 ประกอบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ตลาดมีการคาดว่า โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากที่สุดใน 2Q20 และ 3Q20 ก่อนที่ผลกระทบจะลดลงในช่วง 4Q20

มุมมองล่าสุด เราคาดว่า กำไรสุทธิต่อหุ้น (SET EPS) ปี 2020 จะปรับตัวลดลง 22% YoY โดยหลักๆ เกิดจากยอดขายที่หดตัวลง 16% ทั้งนี้ ตัวเลข SET EPS ปี 2020 ของเรายังตํ่ากว่า consensus อยู่ 17% สะท้อนภาพว่าตลาดอาจมีการปรับลดประมาณการได้อีก ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2020 ประมาณการ SET EPS ปี 2020/2021 ถูกปรับลดลงมาแล้ว 26% และ 18% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ 13% ในปี 2020 และ 8% ในปี 2021 SCBS คาดว่า SET EPS ปี 2021 จะเติบโต 25% จากฐานตํ่าในปี 2020 ซึ่งสอดคล้องกับ EPS ของตลาดหุ้นภูมิภาคที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 30%

อย่างไรก็ตาม ในแง่มูลค่าของกําไรสุทธิของ SET อาจจะยังไม่ฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับปี 2019 จนกว่าจะถึงปี 2022 สะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ ของบางธุรกิจ เช่น ธนาคาร อาหาร อสังหาริมทรัพย์ และ ท่องเที่ยว เป็นต้น ส่วนธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ยังคงต้องประเมินทิศทางของราคาน้ำมันดิบต่อไป

ความเสี่ยงต่อไป คือ ความผิดหวังหากการเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจช้ากว่าคาด แม้เราเชื่อว่าการกลับมาดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น แต่ระดับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในปัจจุบัน ถือว่าได้มองข้ามผลกระทบของ โควิด-19 ในปี 2020 ไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น เราจึงประเมินว่า ตลาดอาจพบกับความผิดหวังในอนาคตบ้าง หากการกลับมาดำเนินธุรกิจไม่ได้เร็วตามที่ตลาดคาดหวังไว้ ทั้งนี้ รวมถึง ความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่ตลาดยังไม่ได้รับรู้เท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่บวก ถ้าประเทศไทย และ ประเทศหลักๆ เช่น สหรัฐฯ จีน และ ยุโรป ไม่ประสบกับการระบาดระลอกที่สองหลังจากกลับมาดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะทำให้มุมมองของ SCBS ที่คาดว่า SET Index ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วมีน้ำหนักมากขึ้น ดังนั้น เป้าหมายการปรับตัวลดลงในระยะสั้นที่มองไว้ก่อนหน้านี้ที่ 950 จุดไม่น่าจะ ใช้ได้อีกต่อไป