posttoday

CKPowerเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น จ่ายปันผล 12 พ.ค.

14 เมษายน 2563

CKPower เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีกำหนด พร้อมจ่ายปันผล 12 พ.ค. ย้ำยังเข้มทุกโรงไฟฟ้าป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ขั้นสูงสุด

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CKP” เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขและมีการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายในวงกว้าง ภาครัฐ จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 โดยสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ อาทิ การปิดสถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน นั้น เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและภาครัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการ CKP เมื่อวันที่13 เมษายน 2563 จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดไว้เดิมในวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้องสุพรรณิการ์ ชั้น 4 อาคารวิริยะถาวร ถนนสุทธิสารวินิจฉัย กรุงเทพมหานคร ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

CKPower ต้องขออภัยท่านผู้ถือหุ้นเป็นอย่างสูงที่ต้องเลื่อนการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 อย่างไรก็ตาม บริษัทจะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาทางเลือกการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วยวิธีการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้สามารถทำได้ เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 2562 ตามงบการเงินล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.0300 บาท และกำหนดให้วันที่ 27 เมษายน 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

“บริษัท และบริษัทในเครือพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและคำสั่งต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงของรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อให้การยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ตามที่บริษัทมีมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ โรงไฟฟ้าและสำนักงานของบริษัทและบริษัทในเครือทุกแห่ง ทั้งในประเทศไทยและสปป.ลาว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และบริษัทไม่นิ่งนอนใจ ยังคงมีมาตรการเข้มงวดสูงสุดในการป้องกันการแพร่ระบาดเช่นเดิม

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการที่ 1 (BIC-1) และโครงการที่ 2 (BIC-2) รวมถึง โรงไฟฟ้าบางเขนชัยโซลาร์ ยังคงผลิตไฟฟ้าและส่งให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EdL) เต็มกำลังการผลิต เพื่อให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูร้อนนี้

สำหรับ CKPower เป็นบริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 46% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์