posttoday

BAM ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 1,765 ล้านหุ้น

16 สิงหาคม 2562

รุกธุรกิจซื้อNPL-NPA ตอกย้ำการเป็นบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

รุกธุรกิจซื้อNPL-NPA ตอกย้ำการเป็นบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

นายสมพร มูลศรีแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM)ผู้นำตลาดธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2562 เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจะนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในอนาคต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยและบล.ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย

ทั้งนี้ BAM จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวนรวมกันไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท คิดเป็นร้อยละ 54.4 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญ (กรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ทั้งจำนวน) แบ่งเป็นหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 230 ล้านหุ้น

ปัจจุบัน BAM มีทุนจดทะเบียน 16,225 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,245 ล้านหุ้น และมีทุนที่ออกและชำระแล้ว 13,675 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 2,735 ล้านหุ้น โดยการระดมทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และทรัพย์สินรอการขายในอนาคต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

BAM ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2542 เพื่อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ (BBC)ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2540 ต่อมาได้ขยายธุรกิจออกไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายจากสถาบันการเงิน ธนาคาร และบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,904 ล้านบาท 4,501 ล้านบาท และ 5,202 ล้านบาท ตามลำดับ มีสินทรัพย์ 93,637 ล้านบาท 99,933 ล้านบาท และ 1.07 แสนล้านบาท ตามลำดับ ปี 2561 มีลูกหนี้ด้อยคุณภาพทั้งหมดจำนวน 86,710 ราย คิดเป็นเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้สุทธิจำนวน 75,434 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายสุทธิจำนวน 20,596 ล้านบาท