หุ้น 31 ส.ค. ปิดบวก 12.93 จุด

ดัชนีปิดที่ 1,227.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.93 หรือ 1.06 % มูลค่าการซื้อขาย 24,780.03 ล้านบาท

วันนี้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนตัวในกรอบแคบในแดนบวก มีเพียงอ่อนตัวช่วงเปิดตลาดในช่วงเช้าเท่านั้นและกลับบมาปิดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 1,227.48 จุด ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มมือถือที่ได้มีการรีบาวน์ขึ้นหลังจากที่ได้ถูกขายทำกำไรค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแรงซื้อกลับในกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างรอถอยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด คืนนี้เวลาไทยประมาณ 21.00 น. ว่าจะมีการแถลงถึงความเป็นได้ในการออกมาตรการ QE หรือไม่ นอกจากนี้ต่างก็ยังรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ในวันที่ 6 ก.ย.ว่าทาง ECB จะมีมาตรการแก้ไขปัญหายุโรปและจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่อย่างไร

ทางด้าน บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่าในเดือน ก.ย. คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,180-1,250 จุด โดยมีเหตุผลของการปรับฐาน 3 ปัจจัยคือ 1. ดัชนีเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นตลอด 4 สัปดาห์และไม่สามารถผ่านแนว1,250 จุด มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะวกกลับเข้าสู่แนวรับที่ 1,180 จุด

2. หุ้นที่เคลื่อนไหวตาม SET INDEX ถ้ามองจากดัชนีกลุ่มหลักๆ เช่น ธนาคาร พลังงาน ซึ่งมีน้ำหนักในกลุ่ม SET50 ก็จะพบว่าราคาค่อนข้างสูง มองว่าจะเกิดความตึงตัวได้ และอาจมีแรงขายออกมามากจึงเป็นเหตุให้มีการปรับฐานลงได้ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปซื้อในรอบใหม่ได้ แล้วค่อยไปขายแนวต้านดังกล่าว และ 3. ภาพตลาดในเดือน ก.ย.นี้ ถ้ามองแบบระยะสั้น(4สัปดาห์) ถือว่าควรมีการขายทำกำไรไปก่อน และพอถึงระดับที่เป็นแนวรับสำคัญคือระดับซื้อกลับครั้งใหม่ อาจได้แรงหนุนของสัญญาณขาขึ้นระยะสั้นครั้งใหม่ที่1,180 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

TRUE     มูลค่าการซื้อขาย 1,239 ล้านบาท ปิดที่ 4.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท (+2.86%)

SCB        มูลค่าการซื้อขาย 1,027 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท (+1.69 %)

INTUCH  มูลค่าการซื้อขาย 1,006 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+1.53%)

PTT        มูลค่าการซื้อขาย 957 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.30%)

BBL        มูลค่าการซื้อขาย 895 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.27%)