จีนจุกหนักกดทองดิ่ง

เงินลงทุนหนีสินค้าโภคภัณฑ์ แห่ชอร์ตกองไชน่าราคาทรุด

เจ.พี.ฯ คาดจีนถดถอยแรง กูรูทองคาดช่วงสั้นราคาขาลง แรงซื้อหด CHINA ร่วงแซงเอ็นเอวี

บริษัทหลักทรัพย์ เจ.พี. มอร์แกน มีมุมมองเศรษฐกิจจีนว่าเป็น “Hard Landing” หรือถดถอยรุนแรง ส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภท โดยเฉพาะทองคำในตลาดโลกทรุดหนักสองวันนี้ ลดลงกว่า 60 เหรียญสหรัฐ หรือร่วงลงถึงบาทละ 600 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนไม่ดีอย่างที่คาดทำให้ราคาทองคำร่วงลงหนัก แล้วยังจะทำให้เงินลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงด้วย

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าผนวกกับค่าเงินยูโรที่อ่อนตัวลง ทำให้คนหันไปถือเงินเหรียญสหรัฐมากกว่าซื้อทองคำ ส่งผลให้แนวโน้มช่วงสั้นๆ นี้ ราคาจะลดลงได้อีกบ้าง โดยในไทยจะมีแนวรับสำคัญที่ 2.35 หมื่นบาท

ดังนั้น นักลงทุนระยะสั้นโดยเฉพาะในโกลด์ฟิวเจอร์สต้องปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับตลาดขาลง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้สินเชื่อหรือมาร์จินสูง เพราะอาจจะถูกเรียกเงินเพิ่ม หรือคอลมาร์จิน

“นักลงทุนต้องมีการปรับกลยุทธ์ที่รวดเร็ว ฉับไว และทันต่อเหตุการณ์ โดยสามารถทำกำไรในช่วงขาลงได้โดย SHORT (ขาย) โกลด์ ฟิวเจอร์ส แม้ว่าทำตอนนี้อาจจะสายไปเพราะลงลึกแล้ว แต่ก็ควรทำเพื่อลดความเสี่ยงจากราคาที่ลดลงหนักมาก”

สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีพอร์ตน้อยกว่า 50% แนะนำให้เข้าซื้อเป็นระยะๆ ในช่วงแนวรับแรก 23,800 บาท และระดับ 23,500 บาท เป็นแนวรับที่สอง

ทางด้านการซื้อขายกองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (CHINA) นั้นพบว่า มีการยืมมาขายล่วงหน้า(ชอร์ตเซล) มากกว่าปกติ โดยนับตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 14 มี.ค. มีการขายชอร์ต จำนวน 1.3 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 8 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18.10% ของปริมาณซื้อขายในตลาด

ทางด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (บลจ.กรุงไทย) กล่าวว่า ราคาของ CHINA วันที่ 15 มี.ค. ปรับตัวลดลง 1.43% หรือ 0.09 บาท มาปิดที่ 6.22 บาท ซึ่งลงมากกว่าราคามูลค่าสินทรัพย์สุทธิโดยประมาณ (iNAV) ซึ่งอยู่ที่ 6.28 บาท และลดลงมากกว่ากองทุนหลักที่จดทะเบียนในฮ่องกงที่ลงประมาณ 0.16% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม บลจ.กรุงไทย ยังมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนและเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้จากปัจจุบันที่ราคายังถูก เนื่องจากเงินเฟ้อลดลงไปมาก ล่าสุดเหลือ 3% เศษ จึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลง 1% ในปีนี้

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า วันที่ 21 มี.ค. ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ ตลท. เพื่อมอบมนโยบายนั้น ตลท.เตรียมเสนอให้ รมว.คลังพิจารณา เช่น การขอยกเว้นการจ่ายภาษีส่วนต่างกำไรหุ้น (Capital Gain) บนกระดานการซื้อขายหุ้นในกลุ่มอาเซียนลิงก์เกจ ซึ่งจะเริ่มซื้อขายในกลุ่มอาเซียนเดือน ส.ค.นี้