สรรพากรเก็บภาษีอีเซอร์วิสทะลุเป้าเท่าตัว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรเก็บภาษีในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ได้ 2.5 แสนล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.93 หมื่นล้านบาท หรือ 8.3% เนื่องจากมีการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีตัวใหม่ โดยเฉพาะการเก็บภาษีอีเซอร์วิส ช่วยให้กรมสรรพากรเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากรมสรรพากรจัดเก็บภาษีอีเซอร์วิส 1,400 ล้านบาท จากผู้เสียภาษียื่นแบบ115 ราย สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มากกว่าเท่าตัวที่คาดว่าจะมีการเข้ามาเสียภาษีประมาณ 50 ราย คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้มายื่นเสียภาษีอีเซอร์วิสมากขึ้นทำให้การเก็บภาษีได้มากขึ้นไปอีก

สำหรับการเก็บภาษีอีเซอร์วิส มีผลเริ่มเก็บได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้ผู้บริการผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการและมีรายได้เกิดขึ้นในไทยจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในไทย มีหน้าที่ต้องยื่นเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งนอกจากทำให้ประเทศไทยเก็บภาษีได้มากขึ้น ยังสร้างความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการบริการผ่านแพลตฟอร์ม ที่จดทะเบียนในประเทศไทย

นายเอกนิติ กล่าวในส่วนของมาตรการช้อปดีมีคืน ให้นำรายจ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. -15 ก.พ. 2565 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ว่า จะไม่กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2565 แต่อาจจะส่งผลกระทบกับรายได้ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งคาดว่าจะสูญเสียรายได้ 6.5 ล้านบาท