posttoday

เร่งล็อกดาวน์เพิ่มชนิดเข้มข้น หวั่นช้าเอาโควิดระลอก 4 ไม่อยู่

17 กรกฎาคม 2564

นักวิชาการฟันธงล็อกดาวน์ยกแรกไร้ผล เร่งล็อกดาวน์เพิ่มคุมโควิดระลอก 4 ให้อยู่ ไม่นั้นเศรษฐกิจพังถึงปีหน้า

ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยว่า มาตรการของรัฐบาลที่ประกาศล็อกดาวน์ 10 จังหวัดพื้นที่เสียง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ลดลงไม่ได้ผล เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไรเลย เพราะการล็อกดาวน์ไม่มีความเข้มข้นในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงยังมีพบผู้ติดเชื้อวันละเป็นหมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดการคาดหมาย

ทั้งนี้ ดร.สมชาย มองว่า การล็อกดาวน์ที่ผ่านมามีปัญหา 3 ประเด็นที่สำคัญ ได้แก่

1.รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการแพร่เชื้อโควิดของสายพันธุ์เดลต้าได้ ซึ่งจะมาแทนที่สายพันธุ์อื่น 90% ตอนนี้ในกรุงเทพมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าไปแล้ว 50% แสดงให้เห็นว่าในอนาคตจะมีคนในกรุงเทพ และทั่วประเทศติดสายพันธุ์เดลต้าอีกมาก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็ว และทำให้มีอาการป่วยรุนแรงและเสี่ยงเสียชีวิตได้ง่าย

2. รัฐบาลไม่มีวัคซีนที่มีคุณภาพยังเพียงพอ คนที่ฉีดได้ 1 เข็ม มีประมาณ 10% คนที่ฉีดได้ 2 เข็ม มีประมาณ 3-4% เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อีกมากที่ต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม ให้ได้ 60-70% ทำให้การล็อกดาวน์ที่ผ่านมาไม่ได้

3. นโยบายของรัฐบาลมีความย้อนแย้งในตัวเอง เช่น ประกาสล็อกดาวน์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเปิดประเทศให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือ สมุยพลัส ขณะที่ประกาศของมาตรการล็อกดาวน์ก็มีความสับสน เช่น อยากให้คนอยู่บ้าน แต่เปิดสวนสาธารณะได้ถึง 2 ทุ่ม การห้ามรวมตัวกันไม่เกิน 5 คน ก็พบว่าแทบไม่ได้ผลเลย เพราะมีการรวมตัวกันเกิน 5 คน ให้เห็นกันได้ทั่วไปหมด

"ถ้ารัฐบาลไม่ล็อกดาวน์เพิ่มอย่างเข้มข้น เอาโควิดระลอก 4 ไม่อยู่แน่นอน และเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาลากยาวข้ามไปถึงปีหน้า การล็อกดาวน์เพิ่มต้องรีบตัดสินใจรีบทำ เพราะล็อกดาวน์ที่ผ่านมาล้มเหลว" นายสมชาย กล่าว