เราชนะคนจนไม่รอแบงก์ ทำบัตรคิวเองแก้รอนาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 ที่ธนาคารกรุงไทยสาขาหนึ่งในกรุงเทพ ได้มีประชาชนคนหนึ่งทำบัตรคิวจองการลงทะเบียนเราชนะให้ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง ซึ่งต้องมาลงทะเบียนที่สาขาธนาคารกรุงไทยแห่งนี้

ทั้งนี้ประชาชนที่ทำบัตรคิว เป็นคนที่อยู่บริเวณธนาคารกรุงไทยดังกล่าว และเห็นว่าการลงทะเบียนวันแรกที่ 15 ก.พ. มีประชาชนมาจำนวนมากจนเกิดความแอดอัดล้นลงไปบนถนน ถึงแม้ว่าในวันที่ 16 ก.พ. 2564 จะแก้ปัญหาโดยแจกบัตรคิว แต่ก็ต้องรอธนาคารเปิดทำการเวลา 8.30 น. ถึงจะรับบัตรคิวได้

ดังนั้น ประชาชนคนดังกล่าวจึงทำบัตรคิวมาตั้งไว้ที่หน้าสาขาธนาคารกรุงไทยแต่เช้ามืดเพื่อให้คนที่มาแต่เช้ามืดได้หยิบบัตรคิวดังกล่าว และมีเวลาไปกินข้าวเช้ารอธนาคารเปิดทำการเวลา 8.30 น. ไม่ต้องมายืนรอหน้าธนาคารกันเป็นเวลานานเกิดความแออัดเหมือนวันแรกที่ผ่านมา โดยบัตรคิวในกล่องน้อยนี้มีประมาณ 100 บัตรคิว ซึ่งเป็นจำนวนที่คาดว่าธนาคารกรุงไทยสาขานี้จะรับลงทะเบียนเราชนะได้ในแต่ละวัน

ประชาชนรายหนึ่งไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยว่า มาถึงสาขาธนาคารกรุงไทยแห่งนี้ตั้งแต่เวลาตีห้าและได้บัตรคิวเบอร์ 4 โดยคนที่ได้บัตรคิวก่อนหน้าไปทำธุระ คาดว่าจะกลับมาตอนธนาคารใกล้เปิดทำการ ส่วนลุงคนที่เป็นคนทำบัตรคิวเดินกลับไปบ้านพักในซอยข้างธนาคาร จะเดินออกมาอีกที่ตอนสายๆ

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การลงทะเบียนเราชนะกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษวันที่ 2 มีจำนวน 218,344 คน โดยธนาคารกรุงไทยได้จัดระบบการลงทะเบียนโครงการฯ ที่สาขาจำนวน 1,023 แห่งทั่วประเทศและจุดบริการเคลื่อนที่จำนวน 871 จุดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่มีความประสงค์จะลงทะเบียน โดยแต่ละสาขาหรือจุดบริการจะแจกบัตรคิวลงทะเบียนตามจำนวนประชาชนที่สามารถรองรับได้สูงสุดในแต่ละวัน ส่วนประชาชนที่เข้ามาติดต่อขอลงทะเบียนที่เกินจากจำนวนนั้น ธนาคารจะแจกบัตรคิวและนัดหมายเพื่อให้มาลงทะเบียนในวันหลัง โดยจะระบุวันและเวลาที่แน่นอน

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจและประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 และไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์

ด้านธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การบริหารรับลงทะเบียนเราชนะ กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละสาขา สาขาขนาดใหญ่ รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 400-500 คนต่อวัน สาขาขนาดกลาง รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 200-300 คนต่อวันสาขาขนาดเล็ก รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 100-150 คนต่อวัน

นอกจากนี้ จุดบริการในจังหวัดต่างๆ รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 500-700 คนต่อวัน จุดบริการตามอำเภอ รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 300-400 คน จุดบริการขนาดเล็ก รองรับปริมาณคนลงทะเบียน 150-200 คน

สำหรับการแจกบัตรคิว ธนาคารจะบริหารวันต่อวัน โดยเปิดทำการปกติ เวลา 8.30 น. -16.30 น. แต่ยืดหยุ่นได้เพื่อให้บริการลูกค้าประชาชนที่มาลงทะเบียนตามบัตรคิวที่แจกในแต่ละวันให้ครบ เช่น หอประชุม จ.ยโสธร รับลงทะเบียนได้ถึง 20.30 น. สามารถบริหารจัดการคิวได้กว่า 1,300 ราย

สำหรับคนที่ลงทะเบียนหลังวันที่ 25 ก.พ. 2564 วันที่ได้รับเงินอยู่ระหว่างทางกระทรวงการคลังพิจารณารอบวันการโอนเงิน เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 วัน