posttoday

กู้เต็มถังเบิกจ่ายได้2เดือน รองบ64มีผลบังคับใช้

06 ตุลาคม 2563

คลังกู้เงินเต็มเพดาน ตุนเงินคงคลัง 5 แสนล้านบาท รองรับการเบิกจ่ายเดือน ต.ค. และ พ.ย. นี้

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 หรือ ก่อนสิ้นเดือน ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุล 4.69 แสนล้านบาท และกู้เงินกรณีที่รายจ่ายมากกว่ารายได้อีก 2.14 แสนล้านบาท ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบ เต็มจำนวนทั้งสองวงเงินแล้ว ทำให้เงินคงคลังสิ้นปีงบประมาณ 2563 มีสูงกว่า 5 แสนล้านบาท สามารถรองรับการเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2564 ใน 2 เดือนแรก คือเดือน ต.ค.และ พ.ย. ได้อย่างไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ งบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ไม่สามารถใช้ได้ทันตามกำหนด 1 ต.ค. 2563 ทำให้การกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลของปีงบประมาณ 2564 จำนวน 6.23 แสนล้านบาท ยังไม่สามารถทำได้ และในช่วงต้นปีงบประมาณเงินการเก็บรายได้ของรัฐบาลยังเข้ามาน้อย ทำให้กระทรวงการคลังแก้ปัญหาป้องกันความเสี่ยงเงินไม่พอเบิกจ่าย โดยการกู้เงินในปีงบประมาณ 2563 ที่กู้ได้ไส่ไว้ในเงินคงคลัง เพื่อรองรับการเบิกจ่ายไปก่อน

อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่างบประมาณ 2564 จะเริ่มใช้ได้อย่างช้าในเดือน พ.ย. 2563 ซึ่งไม่กระทบกับการเบิกจ่ายของรัฐบาล เพราะเมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้ คลังก็สามารถเริ่มกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลได้อีก

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่งบประมาณ 2564 จะต้องมีการขอ ครม. กู้เงินกรณีรายจ่ายมากกว่ารายได้ เหมือนกับปีงบประมาณ 2563 ทีผ่านมา เนื่องจากคาดว่าการเก็บรายได้ยังจะต่ำกว่าเป้าหมายหลายแสนล้านบาท เหมือนปีงบประมาณ 2563 ที่การเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 4 แสนล้านบาท โดยเพดานการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลหรือกู้กรณีรายจ่ายมากกว่ารายได้ในปีงบประมาณ 2564 เหลืออยู่ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท เท่านั้น

ทั้งนี้ในวันที่ 7 ต.ค. 2563 สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะแถลงข่าวผลงานและแผนการดำเนินงานการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา และปี 2564 ที่จะดำเนินการต่อไป