posttoday

บลจ.วรรณ เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1Y MIXED ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย

17 กุมภาพันธ์ 2563

บลจ.วรรณ ขายกองทุนทางเลือก ONE-COMPLEX1YMIXED อายุ 1 ปี รองรับนักลงทุนฐานกลุ่มเงินฝาก/สนใจลงทุนในตราสารหนี้ ลดเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น พร้อมมองดัชนีตลาดหุ้นไทย ปีนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในกรอบ ระดับ 1,650 จุด

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1Y MIXED ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-COMPLEX1YMIXED) ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนทางเลือก(Alternative Investment) ที่ทางบลจ.วรรณได้นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น

โดยกองทุน ONE-COMPLEX1YMIXED มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ และหรือเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ และสัญญาคอลวอร์แรนท์(Call Warrant) หรือ สัญญาคอลออปชั่น(Call Option) ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับดัชนีอ้างอิง SET50 index ในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนการลงทุนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกประมาณ 98% ลงทุนในตราสารหนี้แและหรือเงินฝาก ซึ่งส่วนที่เหลือจะพิจารณาลงทุนใน สัญญาคอลวอร์แรนท์(Call Warrant) หรือ สัญญาคอลออปชั่น(Call Option)

"ในช่วงปี 62 ที่ผ่านมาทางบลจ.วรรณ ได้นำร่องเสนอขายกองทุนทางเลือก ONE-COMPLEXS501YA ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีโดยส่วนใหญ่เป็นฐานกลุ่มลูกค้าเงินฝาก และเป็นความร่วมมือกันระหว่างบลจ.วรรณและธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จํากัด (มหาชน) โดยนำมาซึ่งการเปิดเสนอขายกองทุน ONE-COMPLEX1YMIXED ในครั้งนี้ โดยความน่าสนใจของกองทุนนี้เรายังคงเน้นนโยบายลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น ซึ่งขั้นต่ำนักลงทุนยังได้รับผลตอบแทน 0.25% หากดัชนีปรับตัวลดลงหลังจากสิ้นสุดโครงการ และการแบ่งสัดส่วนการลงทุนในสัญญาคอลวอร์แรนท์(Call Warrant) หรือ สัญญาคอลออปชั่น(Call Option) เพื่อต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน ดังนั้น นักลงทุนที่เหมาะสำหรับกองทุนนี้ ยังคงเป็นนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น และกลุ่มลูกค้าที่ยังสนใจลงทุนในตราสารหนี้ รวมถึงต้องการจัดสรรเงินฝากบางส่วนเพื่อหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทน" นายพจน์กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการกองทุน ONE-COMPLEX1YMIXED ได้ 3 เงื่อนไข โดยเงื่อนไขแรก ราคาปิดของดัชนีอ้างอิง ณ วันพิจารณาน้อยกว่าหรือเท่ากับราคาปิดของดัชนีอ้างอิงในวันเริ่มต้นสัญญา โดยไม่มีวันใดวันหนึ่งรวมถึงวันพิจารณาที่ราคาปิดของดัชนีอ้างอิงสูงกว่า 10% ของราคาปิดของดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา หากเข้าเงื่อนไขดังกล่าว ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แต่จะได้รับเงินต้นและผลตอบแทนประมาณ 0.25%

เงื่อนไขที่สอง ราคาปิดของดัชนี ณ วันพิจารณามากกว่าแต่ไม่เกิน 10% ของราคาปิดของดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา โดยไม่มีวันใดวันหนึ่งรวมถึงวันพิจารณาที่ราคาปิดของดัชนีอ้างอิงสูงกว่า 10% ของราคาปิดของดัชนีอ้างอิงในวันที่เริ่มต้นสัญญา หากเข้าเงื่อนไขที่สอง ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 50% ของดัชนีอ้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น บวกกับ 0.25% หรือ ได้รับผลตอบแทนประมาณสูงสุด 5.25% ในส่วนของเงื่อนไขข้อที่สาม มีวันใดวันหนึ่งรวมถึงวันพิจารณาที่ราคาปิดของดัชนีอ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ของราคาปิดของดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา

หากเข้าเงื่อนไขข้อสาม ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทน 1.50% สัญญาซื้อขายล่วงหน้าบวกกับ 0.25% หรือได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.75% โดยทั้ง 3 เงื่อนไขจะเริ่มต้นสัญญาภายใน 1 ปีและขั้นต่ำในการลงทุน 500,000 บาท

นายพจน์ กล่าวต่อถึงภาพตลาดหุ้นไทยว่า บลจ.วรรณ ตั้งเป้าหมายของดัชนี 1,650 จุด โดยมองว่าปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องของปีนี้ การเมืองในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความล่าช้าของพ.ร.บ. งบประมาณ 2563 หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงกดดันการบริโภคภายในประเทศปัญหาภัยแล้งที่คาดการณ์ว่าจะหนักสุดในรอบหลายปี

ทั้งนี้การใช้มาตรการนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำทั้งในและต่างประเทศจะยังคงเป็นปัจจัยเสริมให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นอยู่เช่นกัน ประกอบกับอัตราเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับที่น่าลงทุนโดยประเมินอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 3%

อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากการชะลอลงของเศรษฐกิจจีนอย่างมากในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบแรงจากการชะลอลงของนักท่องเที่ยว รวมทั้งความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในระยะถัดไป ดังนั้น มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในกรอบไม่เกิน 10% เนื่องจากภาวะแวดล้อมจำนวนมากกดดันขณะที่ปัจจัยสนับสนุนมีจำนวนน้อยกว่า