posttoday

“สมคิด”สั่งธปท.แทรกค่าบาทปลดล็อกLTV

20 มกราคม 2563

“สมคิด” นั่งหัวโต๊ะกระทุ้งคลัง แบงก์ชาติ ออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่องเศรษฐกิจ ดูแลเงินบาท ปลดล็อคสัดส่วน LTV กู้บ้านหลังแรกหลังที่ 2

“สมคิด” นั่งหัวโต๊ะกระทุ้งคลัง แบงก์ชาติ ออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่องเศรษฐกิจ ดูแลเงินบาท ปลดล็อคสัดส่วน LTV กู้บ้านหลังแรกหลังที่ 2

นายกอบ ศักดิ์ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และเลขาธิการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวว่าวันที่ 20 ม.ค. 2563 ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ธนาคารเฉพาะกิจ และ (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) คปภ.

ทั้งนี้การประชุม เพื่อติดตามงานเพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนมาตรการการเงินและการคลัง เพื่อให้มีเม็ดเงินเผ่านการปล่อยสินเชื่อ สร้างสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกมากกว่าคาด

“ตอนนี้เศรษฐกิจโลกที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่คาดขณะที่งบประมาณประจำปี 2563 ยังไม่ออกทำให้ยังไม่มีเงินเติมเข้าไปในระบบ จึงต้องสร้างสภาพคล่องขึ้นมาในเศรษฐกิจเพิ่มเงินให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าให้ได้ จึงต้องมีการประชุมครั้งนี้” นายกอบศักดิ์ กล่าว

สำหรับ มาตรการที่ได้จากการหารือในครั้งนี้ประกอบไปด้วยหลายมาตรการได้แก่กรณี ธปท. จะปรับมาตรการ LTV สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้แก่ผู้ซื้อบ้านทั้งหลังแรกและหลังที่ 2 ซึ่งจะมีส่วนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาอยู่ในขนาดนี้มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นได้ โดยครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นแล้วจะติดตามว่ามาตรการได้ผลหรือไม่แล้วจะมีการหารือกับธปท. ต่อเนื่อง

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ธนาคารเฉพาะกิจเร่งพิจารณาในประเด็นการลดภาระดอกเบี้ยให้กับผู้กู้ยืมที่เป็นประกอบการเอสเอ็มอีซื้อขนาดนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาแนวทางการคืนภาษีที่ต้องคืนให้กับเอสเอ็มอีอยู่แล้ว เช่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รวมถึงการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับทางผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้เร็วที่สุด

“สมคิด”สั่งธปท.แทรกค่าบาทปลดล็อกLTV

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือจะถึงแนวทางที่จะร่วมกันบริหารจัดการให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและไม่แข็งค่าจนกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะประกอบด้วยการทำงานของหลายหน่วยงาน โดยขอให้ ธปท. ดูแลบริหารจัดการค่าเงินให้สอดคล้องกับภูมิภาค ร่วมกับการมีมาตรการเสริมอื่นๆ ได้แก่

ให้คณะกรรมการ คปภ. พิจารณาอนุญาตให้บริษัทประกันชีวิต สามารถนำเงินที่อยู่ในการบริหารไปลงทุนในต่างประเทศได้ รวมถึงให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) หามาตรการสนับสนุนเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีการไปลงทุนต่างประเทศหรือมีการปรับเข้าเครื่องจักรเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้มีเงินไหลออกอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้หารือและให้แนวทางให้ ธปท. ไปพิจารณาหาทางนำเงินสำรองระหว่างประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น ภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้และเป็นไปตามกฎหมาย จากปัจจุบันที่ทุนสำรองส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในตราสารที่ความน่าเชื่อถืออยู่ระดับ AAA ทั้งนี้เพื่อให้ ธปท. มีผลตอบแทนสูงขึ้นไม่ต้องแบกรับส่วนต่างมากจนเกินไปเมื่อมีเงินไหลเข้า