posttoday

"ไทยยูเนี่ยน" ไม่กระทบ สหรัฐฯระงับมาตรการ GSP

27 ตุลาคม 2562

สินค้าอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์ที่"ไทยยูเนี่ยน"จำหน่ายสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ GSP

สินค้าอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์ที่"ไทยยูเนี่ยน"จำหน่ายสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ GSP

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่มีผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศเพิกถอนสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (GSP) สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐฯ หลายรายการ ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าอาหารทะเลจากไทยบางรายการด้วย ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้ภาษีนำเข้าของสินค้าบางรายการที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเริ่มบังคับใช้ใน 6 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์ที่ไทยยูเนี่ยนจำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ GSP ดังนั้นมาตรการที่ประกาศในครั้งนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า การประกาศมาตรการจาก USTR ครั้งนี้ ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังคงมุ่งมั่นทำงานกับรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกเพื่อปรับปรุงเรื่องสิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

นายธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน หรือ SeaChange® ซึ่งเป็นการรวบรวมแนวคิดริเริ่มต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันและสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในอุตสาหกรรมประมงทั่วโลก และหนึ่งในเสาหลักสำคัญของ SeaChange® คือความมุ่งมั่นในเรื่องสิทธิแรงงาน โดยแรงงานของเราต้องมีการจ้างงานที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย และมีเสรีภาพในการเลือกงานตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานขององค์กร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของไทยยูเนี่ยนที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำทางด้านอาหารทะเลที่น่าเชื่อถือที่สุดระดับโลก

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นอันดับ 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหารของโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน อีกทั้งได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยไทยยูเนี่ยนประสบความสำเร็จอย่างมากจากการได้คะแนนสูงสุดที่ 100 % ในด้านความยั่งยืนโดยรวม รวมถึงได้รับคะแนนสูงสุดในหัวข้อ จรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยน ยังได้รับการจัดอันดับโดยดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) เป็นอันดับที่ 1 จาก 30 บริษัทด้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก อีกทั้ง ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืนขององค์กร ยังได้รับรางวัลฟรีดอม อวอร์ด ออสเตรเลีย จากความพยายามต่อสู้เรื่องแรงงานทาสยุคใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เมื่อเร็วๆ นี้

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.33 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่