posttoday

บล.เคทีบีฯคาดไตรมาส 3 กลุ่มแบงก์กำไรหด 12 %

03 ตุลาคม 2562

คาดทั้งกลุ่มโชว์กำไร 4.3 หมื่นล้าน เหตุปัจจัยลบรอบด้าน เอกชนชะลอลงทุน รายได้ดอกเบี้ยลดจากการหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว เอสเอ็มอี กลับมาเป็นเอ็นพีแอล ชู SCB และ KKP เด่น

คาดทั้งกลุ่มโชว์กำไร 4.3 หมื่นล้าน เหตุปัจจัยลบรอบด้าน เอกชนชะลอลงทุน รายได้ดอกเบี้ยลดจากการหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว เอสเอ็มอี กลับมาเป็นเอ็นพีแอล ชู SCB และ KKP เด่น


บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคทีบี (ประเทศไทย )ออกบทวิเคราะห์ คงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเป็น “เท่ากับตลาด” คาดการณ์กำไรสุทธิรวมไตรมาส 3 ของกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 7 % จากไตรมาส 2 โดยกำไรที่ปรับตัวลดลงมาจากสินเชื่อจะเติบโตได้เพียง 1.0% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน เนื่องจากภาคเอกชนชะลอการลงทุน ประกอบกับรายได้ดอกเบี้ยมีการปรับตัวลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว ขณะที่แนวโน้มการตั้งสำรองฯมีโอกาสที่จะตั้งลดลงแต่ไม่มากนัก เพราะมีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ คาดว่า ธนาคารที่เติบโตได้ คือ KKP, TCAP และ TISCO ส่วนธนาคารที่ปรับตัวลดลงทั้ง YoY และ QoQ คือ BBL, KBANK, KTB และ SCB ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) รวมจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.25% จากไตรมาส 2 อยูที่ 3.19% เนื่องจากสินเชื่อที่เติบโตช้า และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง

ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารในช่วง 6 เดือน และ 12 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 7.0% และ 10% เมื่อเทียบกับ SET แต่เริ่มทรงตัวในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเพราะตลาดคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการ reverse สำรองฯจากกฎใหม่ของ TFRS9 ที่สามารถให้ทยอยรับรู้สำรองส่วนเกินเป็นเส้นตรงได้ภายใน 5 ปี แต่จากการศึกษาของบล.เคทีบี ฯ คาดว่า ประเด็นนี้จะไม่ได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ โดยหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคารคือ SCB และ KKP