posttoday

หุ้นปิดร่วง 10.45 จุด ตามตปท.- กลุ่มแบงก์ โรงกลั่น กดดัน

02 ตุลาคม 2562

หุ้นไทย วันที่ 2 ต.ค.62 ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,613.64 จุด ลดลง 10.45 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 42,249.77 ล้านบาท

หุ้นไทย วันที่ 2 ต.ค.62 ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,613.64 จุด ลดลง 10.45 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 42,249.77 ล้านบาท

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องรับแรงกดดัน หลักจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มโรงกลั่นที่ถอยลงมา

โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อยู่ในช่วงทบทวนผลประกอบการไตรมาส 3/62 อาจไม่สดใส เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่คงใช้นโยบายระมัดระวังการทำธุรกิจ ทำให้ตั้งสำรองสูงกดดันกำไรไม่ฟื้น อีกทั้งสินเชื่อยังไม่เติบโตมากนัก ส่วนกลุ่มโรงกลั่นรับผลค่าการกลั่นปรับลง 20% เมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ หลังจากซาอุดีอาระเบียกลับมาผลิตน้ำมันได้เหมือนเดิม ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทย และยังไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นด้วย

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวลงทุกตลาด เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบกว่า 100 จุด คงเป็นความกังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ
จีนที่ยังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาชะลอลง โดยล่าสุด PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯต่ำสุดในรอบ 10 ปี เห็นภาพการชะลอตัวชัดมากขึ้น

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดยังอ่อนแอ แต่หากดัชนีฯลงมาบริเวณแนวรับแรก 1,610 จุด และไม่มีปัจจัยลบร้ายแรงก็มี
สิทธิที่ดัชนีฯจะรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,610 ถัดไป 1,590-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด


5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,261.18 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

AOTมูลค่าการซื้อขาย 1,913.31 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTTมูลค่าการซื้อขาย 1,883.33 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,612.77 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,587.67 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง