เปิดศึกดอกเบี้ยบ้านต่ำ3%ซีไอเอ็มบีไทยประกาศผู้นำตลาด

ซีไอเอ็มบี ไทย สวนกระแสดอกเบี้ยขาขึ้น ส่ง 5 แคมเปญสินเชื่อบ้าน ชูดอกเบี้ยต่ำ 3% ปีหน้าพอร์ตแตะแสนล้านครั้งแรก  เครดิตดีได้ส่วนลด

น.ส.อรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์ สินเชื่อรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายกำลังจะปรับขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งใน ปีหน้า และเริ่มเห็นดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านบางธนาคารปรับขึ้นบ้างแล้ว แต่ไม่ได้ส่งผลให้ธนาคารต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ซึ่งยึดหลักการคิดดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกค้า โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน ซึ่งลูกค้าที่เครดิตดีควรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ทั้งนี้ ธนาคารยังเสนอสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำที่สุดในตลาดได้ เนื่องจากได้มีการปรับพอร์ตมา 2-3 ปี จัดกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดีไว้รวมกัน ซึ่งกลุ่มนี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่ำมาก ทำให้ต้นทุนการตั้งสำรองต่ำ และจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูพฤติกรรมลูกค้า ซึ่งทำให้ผู้ที่ยังไม่มีประวัติเครดิตบูโรหรือคนเป็น ฟรีแลนซ์เข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย

สำหรับแคมเปญสินเชื่อที่อยู่อาศัยมี 5 แคมเปญ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อแต่ละแคมเปญ 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท ภายในไตรมาสแรกของปี 2562 ได้แก่ สินเชื่อบ้านลูกค้าใหม่ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.89% ต่อปี สำหรับผู้ที่มีรายได้ 5 หมื่นบาท/เดือนขึ้นไป

ขณะที่แคมเปญสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านมี 2 แบบ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 2.85% ต่อปี ให้วงเงินสูงสุด 85% ของหลักประกัน และดอกเบี้ย 3.05% ให้วงเงินสูงสุด 95% ฟรีค่าจดจำนอง ด้านผู้ที่ต้องการวงเงินเพิ่ม มี 3 แคมเปญ คือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบขอวงเงินเพิ่ม ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.99% ต่อปี สำหรับพนักงานประจำ 3 หมื่นบาทขึ้นไป สินเชื่อบ้านแลกเงิน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.99% ต่อปี สำหรับผู้มีรายได้ 1 แสนบาทขึ้นไป  และพรอพเพอร์ตี้โลน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 6.66% ต่อปี

"การออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อบ้านทั้ง ระบบในปี 2562 หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มั่นใจว่าสินเชื่อบ้านในปีหน้าจะเติบโต คาดว่าสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 2562 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านจะแตะ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก และสามารถคุมเอ็นพีแอลให้ต่ำกว่าตลาด"

สำหรับปี 2561 สินเชื่อบ้านเติบโตกว่า 50% คิดเป็นมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท จาก 1.4 หมื่นล้านบาทเมื่อ สิ้นปีที่แล้ว ขณะที่ยอดคงค้างสิ้นปีนี้ อยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท เติบโต 16%  ด้านเอ็นพีแอล อยู่ที่ 2.9% ต่ำกว่าตลาดที่เอ็นพีแอลสูงเกิน 3% อัตราอนุมัติเฉลี่ย 60-70%