posttoday

จัดพอร์ตลงทุนอสังหาฯสิงคโปร์

01 ธันวาคม 2556

โดย...ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ CEO บลจ.วรรณ

โดย...ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ CEO บลจ.วรรณ

สวัสดีครับ ฉบับนี้ผมขอแนะนำท่านผู้อ่านเกี่ยวกับการลงทุนใน ต่างประเทศที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการลงทุนที่ดี อาทิ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น คือ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ จากการที่เศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2556 มีการฟื้นตัวมากขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวที่ดี ตามลำดับ โดยเศรษฐกิจสิงคโปร์ส่วนใหญ่มักจะพึ่งพิงการค้าการลงทุนและการส่งออก ระหว่างประเทศ และล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3/2556 (จีดีพี) ที่ประกาศออกมาก็ขยายตัว 5.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 และไตรมาส 3/2555 ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ว่าปี 2556 เศรษฐกิจสิงคโปร์น่าจะมีโอกาสเติบโตได้ประมาณ 2.70% และเติบโตต่อเนื่องที่ประมาณ 3.65% ในปี 2557

ขณะที่ภาพรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ในช่วงเดือน ต.ค. 2556 ก็มีการพลิกกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวลงในช่วงก่อนหน้าจากความกังวลของการชะลอนโยบายการเงินเชิงปริมาณ (QE) เป็นหลัก โดยกลุ่มกองทุนที่ลงทุนในอาคารสำนักงานและพาณิชย์ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากอัตราการเช่าที่สูงในระดับที่ต่อเนื่อง และมีความเหมาะสมระหว่างความต้องการเช่าและปริมาณพื้นที่ให้เช่าในตลาด รวมทั้งสัญญาการเช่าที่ครอบคลุมระยะเวลาประมาณ 2-5 ปี เป็นอย่างต่ำ ทำให้กองทุนสามารถคาดการณ์รายได้ค่าเช่าในอนาคตได้ชัดเจน นอกจากนี้ในปี 2557 ทางการสิงคโปร์ยังจะมีการควบคุมปริมาณพื้นที่ให้เช่าประเภทออฟฟิศ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ประเภทออฟฟิศอีกด้วย

นอกจากนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ยังคงมีความน่าสนใจเพิ่มเติมจากการที่อัตราดอกเบี้ยสิงคโปร์ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้อัตราผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (Dividend Yield) มีค่าสูงขึ้น เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะยาวประเภทอื่นๆ ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจจากนักลงทุน

โดยในช่วงเดือน ต.ค. 2556 อัตราผลตอบแทนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.89% และส่วนต่างอัตราการจ่ายปันผลกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Spread) อยู่ที่ประมาณ 3.8% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประกอบกับอัตราการเช่าของอสังหาริมทรัพย์ยังคงสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศ เนื่องจากมีกระแส ตอบรับจากนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มของบริษัทกฎหมาย บริษัทการเงินและกลุ่มประกันภัย ทำให้คาดว่าอัตราการเช่าของออฟฟิศน่าจะมีโอกาสปรับขึ้นมากที่ 94% ในอีก 4 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับอัตราการเช่าที่ 90% ในปี 2555 อีกทั้งบริษัทจัดการในสิงคโปร์ยังมีนโยบายการจ่ายปันผลของกองทุนที่ 90% ของผลประกอบการด้วย

หากนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ ก็สามารถทำได้ผ่าน 3 ช่องทางครับ คือ ช่องทางที่ 1 นำเงินไปลงทุนโดยตรงด้วยตนเองในกองทุนรวม REITs ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ช่องทางที่ 2 ลงทุนโดยตรงในการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ และสุดท้าย ช่องทางที่ 3 นำเงินมาลงทุนโดยอ้อม โดยผ่านการลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งในประเทศไทยที่มีนโยบายการลงทุนในกองทุนรวม Singapore REITs ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

ซึ่งผมแนะนำสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารและไม่ได้ใกล้ชิดกับตลาด พิจารณาเลือกการลงทุนในช่องทางที่ 3 เนื่องจากการลงทุนผ่านกองทุนรวมไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงมากเมื่อเทียบกับ 2 ช่องทางแรก และยังสามารถกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ออฟฟิศ โรงแรม สาธารณูปโภค โรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า โดยมีผู้จัดการกองทุน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับตลาดฯ เป็นผู้บริหารจัดการดูแลพอร์ตการลงทุนและคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์การลงทุนนั้นๆ เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพให้แก่นักลงทุน ซึ่งทำให้การปรับพอร์ตการลงทุนทำได้รวดเร็วกว่าการลงทุนโดยตรงด้วยตนเอง และลดทอนความเสี่ยงของการจับจังหวะการลงทุนเมื่อเทียบกับการลงทุนด้วยตนเอง

หากนักลงทุนท่านใดที่สนใจการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ บลจ.วรรณ มีกองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ สิงคโปร์ (ONEPROP-SG) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Phillip Singapore Real Estate Income Fund (กองทุนหลัก)