posttoday

หม่อมอุ๋ยแนะหาเงินต่างประเทศ

18 พฤศจิกายน 2555

หม่อมอุ๋ย เสนอหากต้องการให้เศรษฐกิจไทยโตเกิน 5% ต่อปี ต้องส่งเสริมให้เอกชนไทยสร้างฐานลงทุนนอกประเทศ

หม่อมอุ๋ย เสนอหากต้องการให้เศรษฐกิจไทยโตเกิน 5% ต่อปี ต้องส่งเสริมให้เอกชนไทยสร้างฐานลงทุนนอกประเทศ

หม่อมอุ๋ยแนะหาเงินต่างประเทศ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีต รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “เศรษฐกิจกับความมั่นคง” ว่า สภาพเศรษฐกิจไทยในขณะนี้กำลังเผชิญกับสองปัญหาสำคัญ คือการขาดแคลนแรงงานและปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้การลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไม่สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนเช่นอดีต ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นตัวบั่นทอนศักยภาพเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว

“ถ้าไทยยังอยู่แบบนี้ อย่างเก่งเศรษฐกิจไทยจะได้แค่ 3-5% ต่อปี ซึ่งจริงๆ แล้วเรามีศักยภาพจะโตได้ถึง 6-7% ต่อปี แต่การจะไปถึงจุดนั้นเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นประเทศที่ค้าขายให้ได้” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า การแปลงตัวเองให้เป็นเทรดดิงเนชัน หรือชาติที่ค้าขายนั้น ไทยต้อง|เริ่มปรับตัวเองให้เป็นผู้ค้าที่แท้จริง เมื่อผลิตในประเทศไม่ได้แล้ว ค่าแรงแพง โดนประท้วง ก็ต้องออกไปตั้งฐานการผลิตในประเทศอื่นเพื่อสร้างฐานการค้า ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศจะต้องปรับตัวเองให้อยู่ในรูปซื้อมาขายไปหรือเน้นธุรกิจบริการ ต้องใช้ข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ให้เป็นประโยชน์

“เรามีปัจจัยที่เอื้อมากในการเป็นเทรดดิงเนชัน ทั้งภูมิศาสตร์ที่อยู่กึ่งกลาง มีสินค้าระดับชั้นนำของโลกหลายอย่าง ข้าว น้ำตาล อาหารทะเล รถยนต์ และเรากำลังจะมีเส้นทางคมนาคมทางบกและรางที่เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน ถ้าทำให้ดีเราจะก้าวกระโดดขึ้นมาได้อีกครั้ง” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า นอกจากการพัฒนาระบบการขนส่งทางบกและรางแล้ว ไทยควรเร่งพัฒนาท่าเรือน้ำลึกโดยเฉพาะในฝั่งทะเลอันดามันเพื่อเป็นประตูตะวันตก เพื่อแบ่งเบาภาระท่าเรือแหลมฉบังที่ปัจจุบันใกล้เต็มความจุแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าหากไทยมีท่าเรือทั้งสองฝั่งทะเล จะทำให้ปริมาณการค้าไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก

“มีคนถามว่าทำไมไม่รอท่าเรือทวาย แต่ผมกลับมองว่าทำไมเราไม่ขยายปากบารา ทำไมเราต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ ท่าเรือทวายตอนนี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ถ้าพัฒนาปากบาราภายใน 2-3 ปี เราจะได้ใช้ ถ้าปากบาราเกิด ผมเชื่อว่าเราโตได้เหมือนเมื่อครั้งเกิดอีสเทิร์นซีบอร์ด” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว