สั่งลดดอกเบี้ยลง3%ให้ลูกหนี้ดี

สั่งลดดอกเบี้ย 3% ให้ลูกหนี้ดีของ 4 แบงก์รัฐที่มีสิทธิทุกคน หลังยอดไม่วิ่ง

รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีสั่งการให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่เข้าร่วมโครงการพักหนี้ดี ประกอบด้วยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำเนินการลดดอกเบี้ยลง 3% ให้ลูกหนี้ดีไม่เกิน 5 แสนบาท ที่มีสิทธิในโครงการทุกคนแบบอัตโนมัติ แม้ลูกหนี้ไม่ได้แจ้งความประสงค์ โดยจะเริ่มดำเนินการพักเงินต้นและลดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนพักหนี้ดี ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐรายงานยอดลูกหนี้ที่เข้ามาลงทะเบียนแค่ 70% ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมาย เนื่องจากลูกค้าของธนาคารออมสินมาลงทะเบียนน้อย นายกิตติรัตน์ จึงข้องใจว่า ทำไมลูกหนี้ออมสินมีน้อยทั้งๆ ที่ได้สั่งให้ออมสินพักหนี้ให้ลูกค้าอัตโนมัติแล้ว

ก่อนหน้านี้ ธนาคารออมสินและบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ยืนยันว่า ไม่สามารถให้ลูกหนี้พักหนี้อัตโนมัติได้ เนื่องจากวิธีการดังกล่าวยังไม่เป็นไปตามสัญญาเงินกู้ที่ทำไว้กับประชาชน และยังมีการส่งข้อมูลลูกหนี้ไปยังเครดิตบูโรโดยที่ตัวลูกหนี้ไม่ได้รับทราบหรือยินยอม อาจจะเกิดปัญหาฟ้องร้องในภายหลัง

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ฝ่ายนโยบายจึงมอบหน้าที่ในการชี้แจงลูกหนี้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจไปหาแนวทางประชาสัมพันธ์และมีหนังสือชี้แจงให้ลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิทั้งหมดได้รับทราบอย่างชัดเจนว่า ธนาคารจะให้สิทธิในการลดดอกเบี้ยเป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้ ขณะที่ธนาคารออมสินที่จะต้องชี้แจงถึงการบันทึกข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรด้วยว่า ผู้ได้สิทธิยังมีสถานะเป็นลูกหนี้ปกติ

“สิ่งที่ออมสินต้องทำคือ ไปทำความเข้าใจกับลูกหนี้ของตัวเองที่ได้ลดดอกเบี้ยว่า ข้อมูลที่ถูกบันทึกข้อมูลในเครดิตบูโรยังคงเป็นลูกหนี้ดี ที่ได้รับสิทธิลดดอกเบี้ยตามนโยบายของรัฐอยู่ในรหัส 10 ซึ่งเป็นสถานะลูกหนี้ปกติ ส่วนผู้ที่เข้าโครงการโดยเลือกพักชำระเงินต้น |3 ปี จะมีรหัส 13 ซึ่งเป็นรหัสพิเศษ แต่ก็ยังอยู่ในข่ายลูกหนี้ดีเช่นกัน” แหล่งข่าวเปิดเผย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงหากระบุเพียงว่าเป็นนโยบายรัฐบาล แต่ไม่มีเอกสารสั่งการที่เป็นหลักฐาน อาจทำให้ผู้ปฏิบัติซึ่งก็คือธนาคารของรัฐ มีความสุ่มเสี่ยงจะทำผิดกฎหมาย เพราะตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2555 ระบุไว้ว่า ผู้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการพักหนี้ จะต้องแจ้งความจำนงและลงทะเบียนในการขอรับสิทธิ แต่เมื่อมีคำสั่งให้ลดดอกเบี้ยลง 3% อัตโนมัติแก่ลูกหนี้ที่มีสิทธิทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนด้วยนั้น อาจมีความผิดจากการไม่ปฏิบัติตามมติ

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การลดดอกเบี้ย 3% ให้ลูกหนี้ของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 4 แห่ง แม้จะไม่ได้ลงทะเบียนพักหนี้ดีนั้นสามารถทำได้ทันทีและไม่ผิดกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายรัฐ โดยโครงการพักหนี้ดีมีลูกหนี้เข้าข่าย 3.16 ล้านคน คิดเป็นมูลหนี้ 3.51 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยแก่ลูกหนี้อัตโนมัติ เมื่อคำนวณเฉพาะดอกเบี้ยที่ลดลง จะช่วยให้ลูกหนี้ประหยัดเงินรวมทั้งสิ้นปีละ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เงินดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในภาพรวม