posttoday

ซันเดย์ อินชัวร์เทคสัญชาติไทยปิดดีลระดมทุน 45 ล้านเหรียญสหรัฐ

03 กันยายน 2564

“ซันเดย์” ปิดดีลระดมทุนรอบ Series B มูลค่ารวมกว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐ

ซันเดย์ อินชัวร์เทคสัญชาติไทย ผู้นำในการให้บริการการประกันภัยและเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series B โดยได้ Tencent และนักลงทุนชั้นนำมาร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก อาทิ SCB 10X, Vertex Growth and Vertex Ventures Southeast Asia & India, Quona Capital, Aflac Ventures และ Z Venture Capital ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากนักลงทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยนักลงทุนจะเข้าร่วมลงทุนกับ KSK Ventures ซึ่งในรอบนี้ ซันเดย์ได้รับเงินระดมทุนกว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐ เรียกได้ว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างมาก

โดยเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้ในการขยายตลาดค้าปลีก (Retail) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ การรับประกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และประกันภัยรถยนต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงการให้บริการลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่ม กลุ่มลูกค้าองค์กร SMEs และพาร์ทเนอร์ต่อไป

“เราเชื่อว่าผู้บริโภคตระหนักและให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพมากขึ้น รวมถึงยังเปิดกว้างในการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบออนไลน์ เราวางแผนที่จะขยายแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการขายปลีกผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้แก่ลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่มและลูกค้าของพาร์ตเนอร์ของเรา ได้อย่างสะดวกและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย เราเชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนจากนักลงทุนของเราจะทำให้เราสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเอเชียได้อย่างแน่นอน” ซินดี้ กัว ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด กล่าว

“SCB 10X มีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเติบโตในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ “ซันเดย์” การที่ ซันเดย์สามารถให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การออกแบบและการรับประกันภัย ตลอดจนการขายและการให้บริการในช่องทางต่างๆ เป็นสิ่งที่สร้างสวามแตกต่างอย่างมากให้กับซันเดย์เมื่อเทียบกับบริษัท InsurTech รายอื่นๆ เราเชื่อมั่นในทิศทางการทำงานของซันเดย์ที่จะสร้างนวัตกรรมดิจิตัลด้วยการใช้ AI และแมชชีนเลิร์นนิงในการทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยมีราคาที่จับต้องได้ และมีความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล เราพร้อมที่จะร่วมงานกับทีมซันเดย์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันวงการประกันภัยให้เข้าสู่ยุคดิจิตัล” นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าว

ซันเดย์ก่อตั้งขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2560 บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี AI และแมชชีนเลิร์นนิงมาประยุกต์ใช้ในการรับประกันภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ และประกันสุขภาพกลุ่ม รวมถึงการพัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มในการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิการการประกันสุขภาพแก่ลูกค้าองค์กร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ฝ่ายบุคคล นอกจากนี้ ซันเดย์ยังได้พัฒนาซูเปอร์แอปฯ Sunday Service เพื่อให้ลูกค้าผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงการให้บริการสุขภาพแบบไร้เงินสด (Cashless) ไม่ว่าจะเป็นการเคลม การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ หรือการจัดการกรมธรรม์ต่างๆ

ซันเดย์ได้สร้างแบบจำลองข้อมูลแบบไดนามิกเพื่อช่วยในการคำนวณความเสี่ยงและเบี้ยประกันภัยแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ เพื่อให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างฉับไว “เราสร้าง AI Engine ของเราด้วยความพิถีพิถัน เพื่อมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพของกระบวนการการให้บริการประกันภัยแบบเดิมๆ ตั้งแต่ การนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ การแก้ปัญหากระบวนการเคลมที่ซับซ้อนให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น การนำ AI แชทบอทเข้ามาช่วยในการตรวจสอบเกี่ยวกับอาการป่วยของลูกค้าเบื้องต้น เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการที่จะรุนแรงมากขึ้น ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา เรามีความพร้อมที่จะขยายขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการให้บริการประกันภัยด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อสามารถที่จะตอบสนองต่อความเสี่ยง และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” นายสุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Chief Data Scientist) บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด กล่าว

ปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทซันเดย์เติบโตกว่า 100% และได้ให้บริการลูกค้าไปแล้วมากกว่า 1.6 ล้านราย ในจำนวนนี้ กว่า 90,000 รายเป็นลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่มจากอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ การเงินการธนาคาร ภาคการผลิต อุตสาหกรรมการค้าปลีก นอกจากนี้ ซันเดย์ยังได้มีการให้บริการการรับประกันสมาร์ทโฟนแบบรายเดือน (Subscription-based) ผ่านทางพาร์ตเนอร์ต่างๆ ของซันเดย์อีกด้วย โดยในปีนี้บริษัทได้มีการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเจาะกลุ่มตลาดเอเย่นต์ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) และพาร์ตเนอร์ต่างๆ เพิ่มเติม