posttoday

ธุรกิจประกันชีวิตไตรมาสแรกโต3.25%

02 มิถุนายน 2564

ธุรกิจประกันชีวิตไตรมาสแรกโต 3.25% เบี้ยประกันรวมเฉียด 2 แสนล้านบาท

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของธุรกิจประกันชีวิต4 เดือนแรก ปี 2564 (มกราคม-เมษายน) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 195,544 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.25% โดยแยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 56,227 ล้านบาท เติบโต 10.38% ซึ่งประกอบด้วย เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 31,107 ล้านบาท เติบโตลดลง 6.35% เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว 25,120 ล้านบาท เติบโต 41.72% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 139,316 ล้านบาท เติบโต 0.63% อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ 81%

ซึ่งช่องทางตัวแทนประกันชีวิตยังคงเป็นช่องทางหลัก ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 91,040 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 0.94% มีสัดส่วน 46.56% รองลงมาเป็นการขายผ่านธนาคาร เบี้ยประกันภัยรับรวม 83,587 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.71% มีสัดส่วน 42.75% ตามด้วยช่องทางนายหน้าประกันชีวิตเบี้ยประกันภัยรับรวม 10,355 ล้านบาท เติบโตลดลง 1.56% มีสัดส่วน 5.30% ช่องทางอื่นๆเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,565 ล้านบาท เติบโตลดลง 0.92% มีสัดส่วน 2.85% ช่องทางโทรศัพท์เบี้ยประกันภัยรับรวม 4,778 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.41% มีสัดส่วน 2.44% ช่องทางดิจิทัลเบี้ยประกันภัยรับรวม 202 ล้านบาท เติบโตลดลง 3.59% มีสัดส่วน 0.10% และ ช่องทางไปรษณีย์ เบี้ยประกันภัยรับรวม 13 ล้านบาท เติบโตลดลง 15.22% มีสัดส่วน 0.01% ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงคือผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) ซึ่งมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 14,509 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึง 103.47% ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มี เบี้ยประกันภัยรับรวม 32,025 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.77% และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญที่อาจจะยังมีเบี้ยประกันภัยรับรวมไม่สูงมากนักแต่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.57%

ธุรกิจประกันชีวิตไตรมาสแรกโต3.25%

ธุรกิจประกันชีวิตไตรมาสแรกโต3.25%

จากการที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน(Universal Life และ Unit Linked) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจากแบบประกันดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันได้ครบทุกช่วงวัย และยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนร่วมด้วยตามความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันภัยยอมรับได้ กอปรกับสภานการณ์ปัจจุบันมูลค่าหุ้นและรายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ดีขึ้นด้วย ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น 8-10% ทุกปี รวมถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และโรคร้ายแรงยังอยู่รอบตัวเรา ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้นภาคธุรกิจจึงได้มีการปรับปรุงรูปแบบของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้สอดรับกับสถานการณ์มากขึ้น ทั้งในรูปแบบเหมาจ่ายหรือเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมรอบด้าน ตลอดจนบริการเสริมในด้านต่างๆ ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างดีที่สุดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) หรือโรคร้ายอื่นๆ ก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็ถือว่าเป็นแบบประกันที่ประชาชนเริ่มให้ความสนใจและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเข้าสูงสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564*(มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 20%) และเข้าสูงสูงอายุระดับสุดยอดในปี 2574(มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 28%)