posttoday

ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน ...

01 มกราคม 2565

ปี 2565 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของหลายปัจจัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางศรษฐกิจและการลงทุน

ปี 2564 เศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนจากการฟื้นตัวเป็นขยายตัว แม้ว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอน ได้แก่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานนำไปสู่ปัญหาการติดขัดด้านอุปทาน และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ก้าวสู่ปี 2565 นักเศรษฐศาสตร์โดยส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโต แต่อัตราการขยายตัวจะชะลอลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 เนื่องจากปี 2565 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของหลายปัจจัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางศรษฐกิจและการลงทุน ดังนี้

โรคโควิด-19 เปลี่ยนผ่านจากโรคระบาดเป็นโรคประจำถิ่น อัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่กระจายมากขึ้น และการส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อีกทั้งองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ได้อนุมัติยารักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินจะเป็นหนทางที่จะช่วยให้โรคระบาดกลายเป็นเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งสามารถคาดการณ์และควบคุมได้ระดับหนึ่ง แม้ว่าในช่วงปลายปี 2564 จะเกิดการระบาดของโควิด-19 จากไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน แต่ขอมูลผู้ป่วยในเบื้องต้นไม่รุนแรง เนื่องจากมีภูมิต้านทานจากวัคซีน หรือเคยได้รับเชื้อมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามพัฒนาการของไวรัสโรคโควิด-19 ทั้งการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส การแพร่ระบาด และความรุนแรงของโรค

นโยบายการคลัง เปลี่ยนผ่านจากผ่อนคลายเป็นระมัดระวัง เศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงักจากมาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐบาลทั่วโลกหันมาใช้จ่ายด้านการคลังมากกว่าปกติโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการบริโภค ภายหลังที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีการฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะการขยายตัว ทำให้การใช้จ่ายที่เน้นการบริโภคมีความจำเป็นน้อยลง ดังนั้น ในปี 2565 รัฐบาลทั่วโลกจะใช้จ่ายด้านการคลังด้วยความระมัดระวัง แต่เน้นไปที่การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

นโยบายการเงิน เปลี่ยนผ่านจากผ่อนคลายเป็นตึงตัว ธนาคารกลางทั่วโลก นำโดยประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ยูโรโซน และจีน ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำใกล้ 0% ต่อปี และดำเนินมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ (Quantitative Easing) เพื่อเสริมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวตามการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อของประเทศหลักสูงขึ้นกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และทยอยลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะยังดำเนินต่อเนื่องไปยังปี 2565

ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน ...

การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอลงในปี 2565 แต่หากพิจารณาถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณการโดย IMF แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลกและประเทศหลักมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และเป็นการขยายตัวที่สูงกว่าระดับศักยภาพ

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีความไม่แน่นอนและมีแนวโน้มอยู่สูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลาง อีกทั้งสภาพคล่องจากธนาคารกลางหลักเริ่มลดลงและอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น นักลงทุนจึงควรระมัดระวังจากความผันผวนที่อาจสูงขึ้น โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนหลากหลาย (Asset Allocation) จะช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ควรศึกษาทำความเข้าใจในสินทรัพย์ที่จะลงทุน ประเมินความเสี่ยงตามระดับที่ตนเองยอมรับได้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุน