ติดตามการประชุมอีซีบี ตัวเลขการส่งออกไทย

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.60 ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนรอติดตามความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในบางประเทศของยุโรปและเอเชีย รวมถึงไทยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลใช้มาตรการปิดเมืองคุมเข้มขึ้น ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในเดือนเมษายนของนานาประเทศเพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดประกาศตัวเลขการส่งออกของไทยซึ่งมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องในเดือนมีนาคม ด้านนโยบายการเงิน ประเมินอีซีบีคงดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังถูกกดดันจากการขยายมาตรการปิดเมืองในหลายประเทศ ขณะที่ธนาคารกลางของจีนและอินโดนีเซียมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสที่รุนแรงในไทย อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดทำการของไทยเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ เงินบาทกลับแข็งค่าอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดลงจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบปีลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.60% ประธานเฟด โพเวลกล่าวย้ำว่าเฟดจะเริ่มค่อยๆ ลดขนาดมาตรการซื้อสินทรัพย์ลงระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตาม จังหวะการเริ่มลดขนาดมาตรการซื้อสินทรัพย์ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และตลาดแรงงานสหรัฐฯ เป็นสำคัญ

ด้านเอเชีย ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญโดยรวมของจีนแข็งแกร่ง แม้ว่าจีดีพีไตรมาสที่ 1 ปี 2021 จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด แต่ถือเป็นระดับการขยายตัวที่สูงสุดตั้งปี 1992 ที่ 18.3%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากยอดค้าปลีกในประเทศที่ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับภาคการผลิตและการส่งออกที่ชะลอตัวลง แต่ยังขยายตัวด้วยเลขสองหลัก จึงสนับสนุนให้เงินหยวนแข็งค่า และดึงให้เงินสกุลเอเชียรวมทั้งเงินบาทแข็งค่าตามไปด้วย

ด้านไทย หลังจากวันหยุดยาว ตลาดนักลงทุนรอติดตามการประกาศของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการเพื่อควบคุมโควิด-19 แต่เมื่อรัฐบาลไม่ได้ประกาศปิดเมืองและไม่มีประกาศเคอร์ฟิวส์ ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าต่อเนื่องอีกครั้ง ทั้งนี้ เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.22 (เวลา 17.20 น.)