รู้หรือไม่ กองทุน SSF Extra ไม่ใช่แฝดน้องของกองทุน SSF
คอลัมน์ ทันเศรษฐกิจ โดย...รศ.ดร.ปริยดา สุขเจริญสินคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) www.econ.nida.ac.th
เรื่องกองทุนเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF) เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเริ่มในปีนี้ สืบเนื่องจากการสิ้นอายุขัยของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund หรือ LTF) ที่คราวนี้ถึงคราวจริง ๆ ไปแล้วไปลับเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2562 หลังจากที่เคยได้รับการทำบุญต่ออายุโดยเปลี่ยนเงื่อนไขมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้รัฐบาลไม่ต่ออายุการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการซื้อกองทุน LTF อีกแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครตื่นตกใจเท่าไหร่ เพราะเป็นประเด็นที่พูดคุยกันมาหลายครั้งหลายครา โดยประชาชนผู้เสียภาษีทั้งหลายก็รอลุ้นกองทุนน้องใหม่ที่จะเกิดมาแทนกองทุน LTF ว่าจะหน้าตาหล่อสวยแค่ไหน สุดท้าย เราก็ได้พบกับกองทุน SSF ที่คลอดออกมาในปี พ.ศ. 2563 เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแทนที่กองทุน LTF
แต่ดูเหมือนว่ากองทุน SSF ตัวใหม่นี้ไม่ได้เป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับกองทุน LTF เลย เนื่องจากว่าทั้งหน้าตาและนิสัยแตกต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนที่กองทุน SSF นั้นมุ่งหวังให้ประชาชนทุกกลุ่มมีวินัยการออม เริ่มต้นออมระยะยาวตั้งแต่เข้าสู่วัยทำงาน และรู้จักวางแผนทางการเงิน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางรายได้ ซึ่งต่างจากกองทุน LTF ที่ตอนนั้นได้เกิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนตลาดทุน ให้ประชาชนสนใจและสร้างความรู้ความเข้าใจในการลงทุนในหุ้นมากขึ้น โดยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีมาจูงใจ จึงทำให้นโยบายการลงทุนของกองทุน SSF ไม่ได้ระบุว่าจะต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% แบบกองทุน LTF แต่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท นอกจากนี้ ในส่วนของระยะเวลาในการถือครอง ก็ยืดยาวมากกว่ากองทุน LTF โดยกำหนดให้ต้องถือครองไม่ต่ำกว่า 10 ปีเต็ม จึงจะขายได้แบบไม่ผิดเงื่อนไขตามสิทธิประโยชน์ทางภาษี
มีเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้กองทุน SSF และกองทุน LTF พอจะนับญาติกันได้แบบลูกพี่ลูกน้องก็คือ ความเป็นกองทุนที่ประชาชนสามารถนำไปใช้สิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งถ้าพิจารณาในสายสัมพันธ์นี้ ก็จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) อีกด้วย โดยกองทุน SSF ดูจะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกองทุน RMF มากกว่า เพราะในเรื่องของวงเงินที่จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้นั้น ถึงแม้ทั้งคู่จะได้รับการขยายสัดส่วนเป็น 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ก็ถูกจำกัดว่า ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นการออมเพื่อการเกษียณอายุแล้ว ยอดเงินลงทุนรวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งทั้งกองทุน SSF และกองทุน RMF ก็ต้องถูกมัดรวมกัน โดยกองทุน SSF ยังถูกจำกัดไปอีกขั้นที่วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท
หลังจากที่กองทุน SSF ลืมตาดูโลก ก็มาพร้อมวันสิ้นอายุขัยเลย เพราะได้มีการระบุระยะเวลาของการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF ไว้ 5 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2567 ซึ่งเราก็คงต้องมาลุ้นชะตาชีวิตของกองทุน SSF กันอีกทีว่ากองทุนนี้จะอยู่หรือไป ณ ตอนนั้น แต่ชะตาหรือจะสู้ฟ้าลิขิต อยู่ดี ๆ ก็มีลูกรักคนใหม่คลอดออกมาพร้อมกันกับกองทุน SSF อย่างกับเป็นฝาแฝดกัน เพราะตกฟากพร้อมกันเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ที่หลาย ๆ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เริ่มเปิดขายทั้งกองทุน SSF และกองทุนน้องใหม่อย่างกองทุนเพื่อการออมพิเศษ (Super Savings Fund Extra Class หรือ SSF Extra) ออกมากันอย่างคับคั่ง
กองทุน SSF Extra ดูเผิน ๆ จากชื่อ อาจคิดว่าเป็นฝาแฝดของกองทุน SSF แต่แท้จริงแล้ว ถ้าตรวจ DNA จะพบว่า กองทุน SSF Extra ไม่ใช่แฝดน้องของกองทุน SSF แน่นอน เพราะกองทุน SSF Extra มีนิสัยเหมือนกับกองทุน LTF มากกว่า ด้วยนโยบายการลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% แต่วิญญาณของกองทุน LTF ที่ฟื้นกลับมาเกิดใหม่ในร่างของกองทุน SSF Extra นี้ ฟ้าลิขิตมาแล้วให้มีอายุขัยแค่ 3 เดือน เมษายนถึงมิถุนายน พ.ศ. 2563 ซึ่งการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF Extra จะเป็นวงเงินพิเศษเพิ่มเติมในการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีก 200,000 บาท แบบไม่ต้องไปรวมกับวงเงินอื่น ๆ แบบกองทุน SSF และไม่ต้องแม้กระทั่งไปนับรวมกับกองทุน SSF แต่มีเวลาจำกัดในการลงทุนได้แค่ 3 เดือนนี้เท่านั้น
กองทุน SSF Extra มาพร้อมกับภารกิจสำคัญในการพยุงตลาดหุ้นที่ถูกกำหนดให้ทำให้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งกองทุน SSF Extra คงต้องใส่ชุด PPE หน้ากากอนามัย และ Face Shield ป้องกันตัวเองเต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้ติดไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นก่อนภารกิจจะเสร็จสิ้น ดูเป็นงานที่หนักหนาสาหัสอยู่ เพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งทำให้หุ้นจำนวนมากมีราคาปรับตัวลดลง ส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน รวมถึงกระทบเศรษฐกิจไปทั้งระบบ ดังนั้น แม้จะจูงใจให้ประชาชนมาลงทุนในกองทุน SSF Extra ด้วยสิทธิในการลดหย่อนภาษีแบบพิเศษสุด รวมถึงตลาดหุ้นก็ปรับตัวลดลงมาก จึงเป็นอีกแรงดึงดูดให้น่าเข้าไป แต่ด้วยเงื่อนไขการลงทุนที่ต้องถือครองนานถึง 10 ปี ก็อาจทำให้ลังเลกันบ้าง ที่จะไปแช่เงินไว้ในระยะยาวภายใต้สภาวะความไม่แน่นอนนี้ คนที่อายุเกิน 45 ปี ก็อาจจะมีการไปเปรียบเทียบกับกองทุน RMF ที่สามารถขายได้หมดตอนอายุ 55 ปี ดังนั้น คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จำนวนเม็ดเงินหลักหมื่นล้านบาทที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะเข้ามากอบกู้ตลาดหุ้นและบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาสนี้ จะได้ตามคาดไว้หรือไม่
สำหรับประชาชนตาดำๆ ที่กำลังมองซ้ายมองขวาอยู่ ควรพิจารณาถึงสภาพคล่องของตนเองว่า สามารถลงทุนระยะยาวได้จำนวนเงินเท่าไหร่ และความไม่ต้องการใช้เงินจำนวนนั้นเป็นระยะยาวกี่ปี หากไม่ติดขัดปัญหาอุปสรรคใด ๆ หรือปกติทุกปีก็ลงทุนในกองทุนและผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เต็มวงเงินอยู่แล้ว การลงทุนในกองทุน SSF โดยเฉพาะ SSF Extra ที่จะตั้งอยู่ดับไปในช่วง 3 เดือนนี้ เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจมาก ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ เพราะได้โอกาสในการซื้อของถูกที่ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลอยู่จากหลากหลาย บลจ. และมีของแถมพิเศษเป็นการประหยัดภาษีเพิ่มเติมด้วย อีกทั้งยังได้บุญ เพราะจะได้เป็นส่วนหนึ่งในเม็ดเงินที่มาพยุงตลาดหุ้น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป แต่เนื่องจากโปรโมชั่นมีสิ้นสุด จึงต้องรีบไปช้อปกันหน่อย แต่ควรมี Social Distancing ยืนนั่งเข้าคิวซื้อที่เคาน์เตอร์ห่าง ๆ กัน หรือขอให้พิจารณาการช้อปออนไลน์ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และพึงระลึกไว้ก่อนกดยืนยันการซื้อว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง