posttoday

ความเหมือนที่แตกต่างของฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี

07 สิงหาคม 2562

โดย...จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

โดย...จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจเทรดสกุลเงินตลาดฟอเร็กซ์ (Forex ) และตลาดคริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) อาจจะเคยผ่านหูผ่านตาคุณอยู่บ้าง และมีนักลงทุนไม่น้อยที่เกิดข้อสงสัยว่า การเทรดในตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency แตกต่างกันหรือไม่และตลาดไหนน่าสนใจมากกว่ากัน

ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่รู้จักกันดีในหมู่นักลงทุน แต่เมื่อ 2 ปีก่อน ความนิยมของตลาด Forex ถูกท้าทายโดยตลาดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เมื่อราคาของบิตคอยน์( Bitcoin) ขึ้นสูงถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณหลายปีก่อน ตลาด Forex เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในและต่างประเทศ เพราะตลาด Forex ได้เข้ามาอยู่ในตลาดเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ตลาด Forex เกิดความมั่นคงและได้รับความไว้ใจจากนักลงทุนที่หวังจะเกร็งกำไรจากความต่างของราคาเป็นจำนวนมาก

ในปี 2017 ตลาด Forex กลับเกิดการสั่นสะเทือนเพราะการเข้ามาของตลาด Cryptocurrency แต่เดิมตลาด Cryptocurrency ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2009 และได้รับกระแสนิยมทั่วโลกเมื่อปี 2017 ถึงต้นปี 2018 เนื่องจากเหรียญดิจิทัลเหรียญแรกอย่าง Bitcoin มีราคาขึ้นสูงและตกฉวบอย่างรวดเร็ว จนมีการร่ำลือว่านี่คือ ฟองสบู่แตกหรือไม่

เงินดิจิทัลใช่แชร์ลูกโซ่ไหม ด้วยความสงสัยต่าง ๆ มากมาย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่าง Forex และ Cryptocurrency ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ มีความเป็นไปได้หรือเปล่าที่ Forex จะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับ Cryptocurrency แต่ความจริงแล้ว Forex และ Cryptocurrency เป็นตลาดคนละประเภทกัน

Forex คืออะไร?

ในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนในยุคนั้นได้นำทองคำมาเทียบค่ากับราคาเงินธนบัตร เมื่อค่าของเงินธนบัตรถูกตีราคาผ่านค่าของทองคำ นักลงทุนส่วนมากจึงเริ่มเห็นถึงช่องว่างของราคาต่างในธนบัตรแต่ละประเทศ ส่งผลให้นักเก็งกำไรทั้งหลายเริ่มเทรดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างชาติมากขึ้น การทำกำไรจากความต่างของอัตราแลกเปลี่ยนเงินธนบัตรจึงถือกำเนิด เรียกว่า Forex

โดยทั่วไปการเทรดจากความต่างของสกุลเงินมักจับคู่สกุลเงินและเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนของทั้งสองสกุล เพราะราคาของสกุลนั้น ๆ มักถูกกำหนดโดยราคาของอีกสกุลหนึ่ง กล่าวคือ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินเกิดจากการซื้อขายสินค้า

ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ซื้อขายสินค้ากับประเทศไทย หากคนไทยไม่ได้ต้องการซื้อของจากสหรัฐฯ มากเท่ากับที่คนอเมริกาต้องการซื้อของจากประเทศไทย เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะเข้ามาประเทศไทยเยอะขึ้น และเงินบาทก็จะมีปริมาณน้อยในสหรัฐฯ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า และมีราคาที่ถูกลงเมื่อต้องแลกกับเงินดอลลาร์ ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเปลี่ยนแปลง และนักลงทุนจึงสามารถเก็งกำไรจากจุดนี้ได้

ในเวลาต่อมารูปแบบของ Forex ได้เปลี่ยนไปหลังจากที่เทคโนโลยีต่างๆได้ถูกพัฒนาขึ้น การเทรด Forexได้เปลี่ยนจากแบบที่จับต้องได้เป็นการเทรดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และมีความเป็นไปได้สูงว่านักลงทุนจะหันมาเทรด Forex ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มากกว่าเดิมภายในศตวรรษที่ 21

แล้ว Cryptocurrency คืออะไร?

Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล ถือเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินรูปแบบใหม่ ย้อนกลับไปในปี 2009 สกุลเงินดิจิทัลได้ผลิตเหรียญดิจิทัลเหรียญแรกนามว่า Bitcoin ขึ้น ผ่านชื่อนิรนาม Satoshi Nakamoto และในปีต่อ ๆ มาเหรียญดิจิทัลอื่น เช่น Ethereum, Ripple, Litecoin และอีกมากมายได้ถือกำเนิดขึ้น

ตลาด Cryptocurrency ถือเป็นตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวน กล่าวคือ ถ้าคุณซื้อเหรียญ Bitcoin ไว้ในปี 2009 ในปี 2019 คุณสามารถมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 1000 เท่าจากการลงทุน ในทางกลับกัน จากราคาสูงสุดที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 600,000 บาท ราคา Bitcoin สามารถตกลงมาต่ำกว่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 200,000 ภายในไม่กี่เดือนได้เลยทีเดียว

ทั้งสองตลาดเกี่ยวข้องกันหรือไม่?

แม้ว่าตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency จะเป็นตลาดสำหรับเทรดสกุลเงินที่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้เหมือนกัน แต่ทั้งสองตลาดไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันและต่างมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

-ตลาดทั้งสองยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยสกุลเงินต่างประเทศจำนวนมากของตลาด Forex มีความผันผวนประมาณ 0.5 - 1% ในขณะที่เหรียญอันโด่งดังของตลาด Cryptocurrency อย่าง Bitcoin มีความผันผวนราว ๆ 5 - 15% ความแตกต่างนี้ส่งผลให้แต่ละตลาดดึงดูดนักลงทุนหลากหลายประเภทเข้ามาได้

-ค่าอุปทาน หรือ ปริมาณความต้องการเสนอขายของตลาด Forex มีอยู่ไม่จำกัด เพราะตลาดนี้เป็นตลาดซื้อขายที่มีอยู่ทั่วโลก และปริมาณธนบัตรที่ใช้ในการเทรดก็มีอยู่ทุกที่และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากตลาด Cryptocurrency ที่จำนวนเหรียญดิจิทัลสำหรับการเทรดถูกสร้างมาอย่างจำกัด ทำให้ค่าของเหรียญและความต้องเป็นเจ้าของเหรียญเพิ่มขึ้น

-สกุลเงินในตลาด Forex ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางที่เป็นเจ้าของสกุลเงินประเทศนั้นๆ(แต่การเล่นเหล่านี้เป็นเพียงแค่การเก็งกำไรค่าเงิน ไม่ได้ถือว่าเป็นการถือเงินต่างสกุลแต่อย่างใด) ในขณะเดียวกันตลาด Cryptocurrency เป็นตลาดแบบกระจายอำนาจ หมายความว่า ไม่มีหน่วยงานใดหรือบุคคลใดที่กำหนดทิศทางของตลาดได้และนักลงทุนก็มีสิทธิในกระเป๋าเงิน โดยปราศจากผู้ตรวจสอบเพราะตลาด Cryptocurrency ใช้กระบวนการตรวจสอบแบบ Peer-to-peer (การแลกเปลี่ยนกันโดยตรง)

-อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินของตลาด Forex สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามลักษณะของผู้บริโภคในแต่ละประเทศและการซื้อขายระหว่างประเทศ ในทางกลับกันราคาของตลาด Cryptocurrency เกิดจากอุปสงค์และอุปทานในตลาด

แล้วคนส่วนใหญ่นิยมอะไร?

ในปัจจุบัน คนทั่วไปส่วนใหญ่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศล้วนนิยมตลาด Forex กัน เพราะเป็นตลาดที่ผู้คนรู้จักและนิยมกันมานานเพราะเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราที่ทุกคนรู้จักกันดี ในภายหลังเมื่อตลาด Cryptocurrency ได้เติบโตและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ผู้คนจึงเริ่มหันมาศึกษาและลงทุนเพราะเห็นประโยชน์บางอย่างที่โดดเด่นของตลาดนี้

เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงแรกเริ่มของทั้งสองตลาดย่อมได้รับข้อกังขาจากผู้คนและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดยังมีความแปลกใหม่กับผู้คน รวมทั้งผู้คนยังคงต้องการเวลาปรับตัว ซึ่งเห็นได้ชัดจากบริษัทหรือหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องและกฏต่าง ๆ ในตลาดทั้งสอง

ตัวอย่างเช่น แต่เดิมตลาด forex เกิดขึ้นเมื่อโลกกำลังฟื้นตัวจากยุคสงคราม ทุกประเทศจึงเจรจาหารือเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ประเทศตนเอง ภายหลังตลาด forex ได้พัฒนาจากระบบตายตัวเป็นระบบลอยตัว และเกิดการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือแม้แต่ตลาด Cryptocurrency เองที่ยังเป็นจุดแรกเริ่มในสังคมส่วนใหญ่อยู่นั้น ยังคงมีการพัฒนาปรับระบบตลาดขึ้นเรื่อย ๆ มีบริษัทไม่น้อยที่สนใจและเป็นตัวกลางในการเทรด

กฎหมายของทั้ง 2 ตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างไร?

สิ่งที่นักลงทุนควรจำให้ขึ้นใจ คือ ต้องศึกษาตลาดและตนเองก่อนการลงทุนด้วยความรอบคอบอยู่เสมอ เพราะไม่ว่าตลาดนั้นจะเติบโตและมีชื่อเสียงเพียงใด รูปแบบการดูแลนักลงทุนของแต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน

เมื่อไม่นานมานี้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ชี้แจงว่าการลงทุนในตลาด Forex ผ่านระบบคอมพิวเตอร์โดยบริษัทตัวกลางของต่างประเทศนั้น ยังไม่มีกฏหมายใด ๆ ของประเทศไทยที่รองรับ ฉนั้น การลงทุนในลักษณะนี้อาจมีความเสี่ยงอย่างมากและผู้ที่ลงทุนจะไม่ได้รับการคุ้มครอง

ในขณะเดียวกัน การเทรดในตลาด Cryptocurrency ในประเทศไทยถือว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะบริษัทตัวกลางในตลาด Cryptocurrency ถูกรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อาทิ เว็บไซต์ Bitkub.com ซึ่งให้บริการเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้บริษัท Bitkub Online Co.,Ltd.

การเปรียบเทียบ Forex และ Cryptocurrency ก็เหมือนการเปรียบเทียบช้อนกับตะเกียบ ที่แม้ว่าทั้งสองจะมีลักษณะการใช้งานที่เหมือนกัน หรืออาจจะสร้างด้วยโลหะที่เหมือนกัน แต่ทั้งคู่มีการทำงานและลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าผู้ใช้เข้าใจตลาดเพียงใดและสะดวกแบบใด

สุดท้ายแล้วการเทรดในตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency ต้องมีการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ ดังสุภาษิตที่โด่งดังของนักเทรดที่ว่า “บางครั้งตลาดกระทิงชนะ บางครั้งฝ่ายชนะก็เป็นตลาดหมี และคนที่แพ้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ในตลาดใด คือคนที่ไม่ฉลาดรอบคอบ”