‘I will survive ผู้ชายแบบผม ไกรวิทย์ พุ่มสุโข’
เป็นชื่อคอนเสิร์ตของอดีตนักแสดง นักร้อง และพิธีกรค่ายเจเอสแอล ไกรวิทย์ พุ่มสุโข
โดย...ปอย
เป็นชื่อคอนเสิร์ตของอดีตนักแสดง นักร้อง และพิธีกรค่ายเจเอสแอล ไกรวิทย์ พุ่มสุโข ซึ่งจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยแรงบันดาลใจจากคุณแม่บรรลุ พุ่มสุโข ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และเข้ารับการดูแลรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี “ต้อมไกรวิทย์” บอกว่าทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผู้ป่วยทุกท่านต้องการกำลังใจและกำลังทรัพย์ เขาและเพื่อนๆ ศิลปินจึงจัดเต็มจัดคอนเสิร์ตบรรเลงโดยวง BIG BAND เฉลิมราชย์ ควบคุมวงโดยอาจารย์วิรัช อยู่ถาวร ด้วยความตั้งใจเกินร้อยระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
“ทำไมถึงเป็น I will surviveไม่ใช่คอนเสิร์ตเปิดตัวแน่นอน รุ่นนี้เลยวัยการเปิดตัวแล้วละครับ!!!” ต้อมไกรวิทย์ บอกพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ และอธิบายว่าชีวิตนี้ไม่ว่าเขาจะคิดทำอะไร อัลบั้มเพลง นักแสดง หรือช่างทำผม คำว่า surviveการมีชีวิตอยู่รอด คือคำที่ใช้เป็นมอตโตในการดำเนินชีวิตเสมอ
สถานะวันนี้ “ต้อมไกรวิทย์” เป็นแฮร์สไตลิสต์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย จากการร่วมพัฒนากับเจ้าพ่อของวงการซาลอน สมศักดิ์ ชลาชล จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จุดผกผันนี้ต้องใช้คำว่าอิ่มตัวในวงการบันเทิง ซึ่งก่อนหน้านั้นหลายคนจะรู้จักเขาในฐานะนักร้องนักแสดงหน้าหยก ตี๋ๆ ใสๆ การไปเรียนด้านแฮร์ซาลอนที่ประเทศแคนาดาถือเป็นการพลิกผันชีวิตครั้งสำคัญ เพราะได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบคือ การเป็นโปรเฟสชันนัลในอาชีพแฮร์สไตลิสต์ และกลับมาเมืองไทยทำร้านทำผมในย่านสีลมกว่า 1 ปี
“วงการบันเทิงมีจุดอิ่มตัวครับ พอถึงวันหนึ่งเราก็อยากทำงานที่เป็นเจ้านายตัวเอง ก่อนนั้นอาชีพของผมคือนักร้อง (บอกพร้อมรอยยิ้ม) ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็กๆ เริ่มฝึกหัดเล่นดนตรีเมื่อเรียน ม.3 พี่ตู่นันทิดา แก้วบัวสาย พี่ปุ๊อัญชลี นี่คือต้นแบบของเรา เข้าวงการก็เพราะไปประกวดร้องเพลงสยามกลการ ตอนนั้นขอใช้คำว่าอ่อนประสบการณ์บนเวที จำได้ว่าออกไปหน้าเวทีร้องเพลงบังคับคือ เพลงชื่อ Reality แต่พอเด็กหน้าตี๋ๆ หน้าหยกๆ แต่งหน้าขาวโบ๊ะ ออกไปยืนหน้าเวที คนก็กรี๊ดๆๆๆ ผมได้ยินแต่เสียงกรี๊ด เนื้อเพลงหายไปจากความจำ 1 ประโยค เหมือนทีวีจอปิดน่ะ เราไปรีแอ็กชั่นกับเสียงกรี๊ดจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ตลกมากๆ เพราะความเป็นเด็กอ่อนประสบการณ์ คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ก็เข้ามาปลอบคนตกรอบ แต่ก็กลายเป็นว่ามีค่ายเทปติดต่อมา 23 ค่ายเลยนะครับ ผมเลือกค่ายเมโลดี้เรคคอร์ด เพราะอยากเจอพี่ปุ๊อัญชลี ที่เป็นนักร้องดังของค่ายนี้ ได้ร่วมงานกับจิตนาถ วัชรเสถียร ชีวิตก็พลิกผัน แต่ก็ไม่โด่งดังมากมาย แต่สมัยนั้นต้องออกตัวว่าตัว (ดารา) ไม่เยอะ มีโอกาสทำงานครบทั้งร้องเพลง แสดงละคร เป็นพิธีกร” ไกรวิทย์ บอกเล่าวันวาน
ได้ออกอัลบั้มเพลงเมื่อต้นปี 2531 ชื่อชุด มันอยู่ที่ใจ จากนั้นจึงได้มีผลงานภาพยนตร์และละครตามมาอีกหลายเรื่องในฐานะตัวประกอบ เช่น เทวดาตกสวรรค์ ในปี 2532 รักในรอยแค้น ในปี 2535 มงกุฎดอกส้ม ในปี 2539 และมีผลงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ เช่น ท็อปเท็น ทางช่อง 9 และวิก 07 ทางช่อง 7 และเริ่มมาผลิตรายการเอง ทำรายการให้ช่อง 9 ชื่อรายการ “ฟ้าใสกับไกรวิทย์” ทำนานถึง 8 ปี เป็นรายการวาไรตี้ทอล์ก สุขภาพ เน้นความสวยความงาม
ปัจจุบันนอกจากงานที่รับผิดชอบมากมายเกี่ยวกับธุรกิจร้านทำผม ต้อมไกรวิทย์ ยังเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์และเป็นกรรมการตัดสินในรายการ “ซิงกิ้งคิดส์” ส่วนทางด้านงานเพลงเริ่มกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้ง โดยได้ไปร่วมเป็นศิลปินรับเชิญในคอนเสิร์ตของสุดา ชื่นบาน และฉันทนา กิติยพันธ์ ที่ศาลาเฉลิมกรุง ในปี 2556 และล่าสุดกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตอีกครั้งบนเวทีศาลาเฉลิมกรุง ในคอนเสิร์ต “DISCO TIME” ปี 2557
ด้วยความสามารถพิเศษหลากหลาย โดยเฉพาะลีลาและเสียงร้องทางการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยม นฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการ โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง จึงได้ชวน ต้อมไกรวิทย์ พุ่มสุโข เปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกของเวทีศาลาเฉลิมกรุง ในชื่อคอนเสิร์ต “I will survive ผู้ชายแบบผม ไกรวิทย์ พุ่มสุโข” โดยได้ชวนผองเพื่อนพี่น้องศิลปินรับเชิญในคอนเสิร์ตมากมาย ตั้งแต่น้องชาย กิตติพันธ์ พุ่มสุโข สมศักดิ์ ชลาชล สุดา ชื่นบาน ชรัส เฟื่องอารมย์ กอบสุข จารุจินดา วรายุฑ มิลินทจินดา ศิริพร อยู่ยอด นนทิยา จิวบางป่า ริสา หงษ์หิรัญ ทรงวุฒิ สวัสดี บัตรราคา 1,000/700 และ 500 บาท คอนเสิร์ตวันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค. เวลา 14.00 น. ใครยังจำ “ต้อมไกรวิทย์” ได้ ไปซื้อบัตรที่ศาลาเฉลิมกรุง (หรือโทร 02-225-8757-8, 02-623-8148-9) วันนี้ยังไปย้อนเวลากับเขาได้ทันการณ์