ทำความรู้จักนักแสดงจากเรื่อง “King Richard”
มารู้จักกับ "เดมี ซิงเกิลตัน" หรือ เซเรนา วิลเลียมส์ใน “King Richard”
ภาพยนตร์ KING RICHARD สร้างจากเรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเรา เรื่องราวการเดินทางของ ริชาร์ด วิลเลียมส์ (วิลล์ สมิธ) พ่อผู้ไม่ย่อท้อต่อการเลี้ยงดูสองนักกีฬาที่ได้กลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงวงการกีฬาเทนนิสตลอดกาล ทั้งคู่ได้แรงผลักดันจากพ่อผู้เห็นภาพอนาคตของพวกเขาอย่างชัดเจน และเลือกใช้วิธีที่ต่างจากแบบแผนทางสังคม ริชาร์ด วางแผนว่าจะพา วีนัส (ซานิย์ยา ซิดนีย์) และ เซเรน่า วิลเลียมส์ (เดมี่ ซินเกลตัน) ออกจากคอมป์ตัน รัฐแคลิฟอร์เนียสู่การเป็นผู้มีชื่อเสียงแห่งตำนานระดับโลก ภาพยนตร์เต็มไปด้วยความซาบซึ้งที่ถ่ายทอดให้เห็นพลังของครอบครัว ความพยายาม และความเชื่อมั่นที่นำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องที่ยากจะเป็นไปได้ และมีอิทธิพลต่อทั้งโลก
บทสัมภาษณ์ เดมี ซิงเกิลตัน (เซเรนา วิลเลียมส์)
คำถาม: คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับครอบครัววิลเลียมส์ตอนที่มาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ ก่อนที่จะได้อ่านบท “King Richard”
เดมี ซิงเกิลตัน: ทั้งชีวิตนี้ฉันมองว่าเซเรนาและวิลเลียมเป็นบุคคลตัวอย่างในแวดวงเทนนิส ฉันรู้จักพวกเธอและรู้ว่าพวกเธอยิ่งใหญ่แค่ไหน ฉันเป็นแฟนของพวกเธอค่ะ พวกเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันยึดถือเป็นแบบอย่างจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเธอเติบโตมาอย่างไรและผ่านอะไรมาบ้างนั้นฉันไม่ได้รู้มากนัก ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอต้องต่อสู้กับอะไรและผ่านอะไรมาบ้างเมื่อตอนเป็นเด็ก นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รู้จากการทำงานในหนังเรื่องนี้
คำถาม: ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่า “King Richard” เกี่ยวกับอะไร คุณจะอธิบายถึงเรื่องนี้อย่างไร
เดมี ซิงเกิลตัน: “King Richard” เกี่ยวกับริชาร์ด วิลเลียมส์ ซึ่งเป็นพ่อของเซเรนาและวีนัส วิลเลียมส์ รวมถึงการวางแผนของเขาเพื่อให้พวกเธอประสบความสำเร็จ แล้วก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย เป็นการแสดงให้เห็นว่าครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน ฉันเชื่อว่าถ้าไม่มีครอบครัว เซเรนาและวีนัสก็จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ พวกเธอเก่งอยู่แล้ว พวกเธอมีความสามารถอยู่แล้ว แต่ในแวดวงกีฬาอย่างกีฬาเทนนิสในสมัยก่อนมีแต่นักกีฬาคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กผู้หญิงผิวดำสองคนจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ได้ด้วยภูมิหลังแบบนี้ ฉันมองว่าถ้าไม่ได้ครอบครัวคอยสนับสนุน คงยากที่พวกเธอจะได้มาอยู่ตรงจุดนี้ในปัจจุบัน
คำถาม: สำหรับคุณอะไรที่น่าประหลาดใจที่สุดใน “King Richard”
เดมี ซิงเกิลตัน: ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือการมีส่วนร่วมของทุกคนในครอบครัว ไม่ใช่แค่พ่อ แม่ หรือพี่น้องคนใดคนหนึ่งแต่เป็นทั้งครอบครัว แม้กระทั่งตอนซ้อม พวกพี่ๆ น้องๆ ก็จะอยู่ในสนามด้วย คอยช่วยเหลือ ช่วยวอร์มร่างกาย แขวนป้ายให้กำลังใจ เก็บลูกเทนนิสให้ พวกเธอมาถึงจุดนี้ได้ด้วยการทำงานกันเป็นทีมซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้ค่ะ แต่ก่อนฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอมีพี่น้องคนอื่นด้วย
คำถาม: ทุกคนบนโลกรู้ว่าเซเรนา วิลเลียมส์เป็นใคร แต่เซเรนา วิลเลียมส์ที่คุณเล่นในหนังเรื่องนี้เป็นใครครับ
เดมี ซิงเกิลตัน: ฉันเล่นเป็นเซเรนา วิลเลียมส์วัยเด็ก สมัยที่เธอยังคงค้นหาว่าตัวเองเป็นใคร ในตอนนั้นพี่สาวของเธอเริ่มเป็นที่จับตามองแต่ตัวเธอเองยังไปไม่ถึงจุดนั้น และเธอก็พยายามที่จะพิสูจน์กับทุกคนว่าเธอมีความสามารถและความพร้อมไม่แพ้พี่สาว เธอก็เป็นที่หนึ่งได้เหมือนกัน ฉันเป็นเซเรนา วิลเลียมส์คนนั้นค่ะ
คำถาม: เล่าให้ฟังหน่อยครับว่าคุณเตรียมตัวอย่างไร ได้ข่าวว่าคุณฝึกซ้อมนานมาก
เดมี ซิงเกิลตัน: นอกจากการฝึกเล่นเทนนิสซึ่งยากมากในตอนแรก เพื่อที่จะเข้าใจความคิดและตัวตนของเซเรนาเพิ่มขึ้น ฉันก็เลยค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและ YouTube แล้วหาวิดีโอตอนเธอยังเป็นเด็กอยู่เท่าที่จะทำได้ ตอนนี้มีวิดีโอของเธอตอนเป็นผู้ใหญ่อยู่เป็นร้อยๆ แต่การจะหาวิดีโอตอนเธอเป็นเด็กจะยากกว่าหน่อย ฉันดูวิดีโอพวกนั้นแล้วเรียนรู้ท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอทำเพื่อให้ทุกอย่างดูสมจริงมากที่สุด อย่างเช่นเวลาเธอหัวเราะ ฉันว่าเธอหัวเราะได้สนุกสนานและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นเป็นสิ่งที่ฉันพยายามจะใส่ลงมาในหนังด้วย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับบรรดาพี่ๆ น้องๆ ทุกวันนี้พวกเธอก็ยังสนิทสนมกันและเราต้องแสดงความสัมพันธ์นี้ออกมาในหนังด้วย
คำถาม: เล่าให้ฟังถึงการพบกับเซเรนาหน่อยได้ไหมครับ เธอได้มีส่วนช่วยในการแสดงของคุณอย่างไรบ้าง
เดมี ซิงเกิลตัน: ครั้งแรกที่ฉันพบเธอจริงๆ แล้วคือตอนที่ฉันรับบทเป็นเธอในโฆษณาซูเปอร์โบวล์ เป็นซูเปอร์โบวล์ปี 2019 แต่โฆษณาถ่ายทำในปี 2018 เธอยุ่งมาก เธอกำลังจะต้องไปถ่ายทำอะไรต่อสักอย่าง ก็เลยได้แต่ทักทายกันอะไรแบบนั้น เรายังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ
แต่พอฉันได้พบเธอเพื่อมารับบทใน “King Richard” เธอกับวีนัสแวะมาที่กองถ่ายและเซอร์ไพรส์พวกเราทุกคน ตอนนั้นฉันตื่นเต้นมาก (หัวเราะ) ฉันกังวลมากเพราะเอาแต่คิดว่า “เซเรนากับวีนัส วิลเลียมส์มาที่นี่ แล้วพวกเธอคือคนที่เรากำลังรับบทอยู่นะ” เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับฉันกับซาไนอา แต่หลังจากเราถ่ายทำฉากที่พวกเธอมาดูเสร็จแล้ว เราก็ได้คุยกัน พวกเธอบอกว่าตื่นเต้นแทนเราและภูมิใจในตัวเรามากแค่ไหน และคำพูดนี้ก็มีความหมายต่อฉันมาก ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ
พวกเธอคุยกับเราเหมือนเราเป็นพวกเธอจริงๆ… มีจุดหนึ่งที่เซเรนาพูดว่า “หนูจะได้เดตกับหนุ่มคนนี้ เราเรียกเขาว่า ‘พ่อหนุ่มคอตัน... เขาไม่ชอบฉันหรอก” อะไรแบบนั้น “ถ้างั้นก็อย่าไปชอบเขาสิ!” มันตลกมากๆ เลย บทสนทนาอาจไม่ใช่แบบนี้เป๊ะๆ แต่มันเป็นอะไรประมาณนี้แล้วก็ตลกมากๆ สิ่งนี้ช่วยฉันได้มากเพราะมันแสดงให้เห็นว่าตัวจริงของพวกเธอก็ออกจะตลกและบ๊องๆ เราได้เห็นเซเรนาและวีนัสตอนที่เป็นนักกีฬาจอมโหดอยู่ในสนาม แต่พวกเธอใจดีมากๆ เมื่ออยู่นอกสนามค่ะ
คำถาม: พูดถึงคนที่ใจดีมากๆ คุณช่วยเล่าถึงการทำงานกับวิลล์ สมิธได้ไหมครับ
เดมี ซิงเกิลตัน: อ้อ นั่นเป็นเหมือนฝันเลยค่ะ! การได้ทำงานกับมิสเตอร์วิลล์เหมือนฝันที่เป็นจริงเลย เขาเป็นนักแสดงแถวหน้าของยุค แต่เขาทำตัวเหมือนคนธรรมดาๆ เขาติดดินมากๆ ตลกมากด้วย
สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับเขาคือการแกล้งเขาเนี่ยไม่ง่ายเลย ตอนอยู่ในกองถ่ายเราชอบเล่นแกล้งกัน เราจะแอบย่องเข้าไปทำให้เขาตกใจแต่ไม่เคยได้ผลเลย ต่อมาเราถึงได้รู้ว่าพ่อของเขาอยู่ในกองทัพ และพ่อก็สอนให้เขาและพี่ๆ น้องๆ ต้องไม่สะดุ้งหรือตื่นตกใจเวลาที่รู้สึกกลัว ต้องนิ่งและสงบสำรวมให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นซาไนอากับฉัน รวมถึงเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ที่พยายามทำให้เขาตกใจก็เลยได้แต่บ่นว่า “เฮ้อ แย่จัง” เพราะทำยังไงวิลล์ก็ไม่ตกใจ แต่เขาน่ะทำให้เราตกใจตลอดเลย ทุกคนกรีดร้องเสียงดังกันตลอด สนุกมากจริงๆ ค่ะ เราสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับวิลล์และเขาก็คอยดูแลให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยและมีช่วงเวลาที่ดีในกองถ่าย
คำถาม: คุณกับซาไนอาซึ่งเล่นเป็นวีนัสหรือพี่สาวของคุณในเรื่องดูเหมือนพี่น้องกันจริงๆ เลยบนจอ พวกคุณดูผูกพันกันจริงๆ คุณสร้างความผูกพันนั้นขึ้นมาอย่างไร
เดมี ซิงเกิลตัน: มิสเตอร์เรย์ ผู้กำกับของเรา มองว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องผูกพันกันจริงๆ เพราะฉะนั้นทันทีที่เรารู้ว่าได้รับบทนี้ เขาก็ให้เราติดต่อกันและเราก็เริ่มส่งข้อความหากัน เรายังไม่ได้สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่เราก็ทำความรู้จักกันไว้และคอยทักทายกันอยู่เรื่อยๆ ว่า “ไง เธอเป็นไงบ้าง” แต่พอเริ่มช่วงพรีโพรดักชันและเริ่มถ่ายทำกัน เราก็ได้ใช้เวลาด้วยกัน ไปช็อปปิงและใช้เวลาสังสรรค์อยู่ด้วยกัน จุดนั้นเองที่เราเริ่มผูกพันกันและเป็นเพื่อนสนิทกันมานับแต่นั้น ฉันชอบซาไนอามากค่ะ ก่อนมาให้สัมภาษณ์ฉันก็เพิ่งส่งข้อความไปหาเธอ
คำถาม: และเธอบอกว่าพวกคุณยังเล่นเทนนิสกันอยู่
เดมี ซิงเกิลตัน: ใช่ค่ะ เรายังเล่นอยู่
คำถาม: เยี่ยมเลย มาพูดถึงมิสเตอร์เรย์กันบ้าง เขาเป็นผู้กำกับที่น่าทึ่งคนหนึ่งเลย ช่วยเล่าถึงการทำงานกับผู้กำกับมากความสามารถคนนี้ได้ไหมครับ
เดมี ซิงเกิลตัน: เขาน่าทึ่งและเก่งมากจริงๆ ค่ะ หนังคงไม่มีทางออกมาเป็นแบบนี้ได้ถ้าขาดเขา และฉันก็ต้องขอบคุณที่ได้มีโอกาสพบเขาด้วย เขาเป็นคนตลกมากๆ มีมุกภายในเยอะแยะระหว่างนักแสดงกับผู้กำกับ... มิสเตอร์เรย์ มิสเตอร์วิลล์ ทีมนักแสดงทั้งหมด เราเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่และฉันก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกๆ คนในหนังเรื่องนี้ ฉันต้องขอบคุณทุกคนเลยค่ะ
คำถาม: อันจานู เอลลิส เล่นเป็นแม่ของคุณ การทำงานกับเธอเป็นอย่างไรบ้างครับ
เดมี ซิงเกิลตัน: การทำงานกับมิสอันจานูก็เป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งค่ะ ฉันได้รับความรู้จากเธอ จากการทำงานกับเธอ ความสุขุมของเธอเมื่ออยู่ในกองถ่ายและการที่เธอไม่กลัวที่จะบอกว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวละครที่เธอเล่น มีอยู่ฉากหนึ่งที่ฉันไม่แน่ใจว่าเซเรนาจะพูดแบบนี้หรือทำแบบนั้นหรือเปล่า ฉันก็เลยไปปรึกษาเธอเพราะฉันเชื่อใจเธอ เธอบอกฉันว่า “หนูบอกคนอื่นได้นะว่านี่เป็นตัวละครของหนูและหนูน่าจะรู้ดีที่สุดเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าแบบนี้มันยังไม่ใช่ หนูก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง” เธอช่วยฉันได้จริงๆ ในตอนนั้นและทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาได้เมื่ออยู่ในกองถ่ายเพื่อตัวฉันเองและเพื่อตัวละครที่ฉันเล่นด้วย
คำถาม: เราทราบมาว่าบางครั้งก็มีการด้นสดด้วย การทำงานส่วนนี้เป็นอย่างไรครับ
เดมี ซิงเกิลตัน: เวลาที่เล่นแบบด้นสด มันเหมือนกับเราทำไปตามความรู้สึก อย่างที่ฉันบอกค่ะ เราเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ เพราะฉะนั้นการด้นสดส่วนใหญ่ก็เหมือนเวลาเราอยู่ด้วยกันแบบเป็นครอบครัว ถ้ามันออกมาโอเค เราจะไม่คิดเยอะเกินไป เราแค่ปล่อยให้มันไหลไปและถ่ายทำออกมา...มันจึงดูจริงมากๆ เราจะไม่มาคิดหรือวางแผนเอาไว้ก่อน เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ อย่างเช่นมีภาพตอนที่มิสเตอร์วิลล์เข็นรถเข็นเทนนิสที่มีฉันกับซาไนอานั่งอยู่ นั่นก็ไม่ได้อยู่ในบท เพียงแต่มันเกิดขึ้นเองไปตามธรรมชาติ
คำถาม: คุณคิดว่าผู้ชมจะได้รับอะไรจากหนังเรื่องนี้ และคุณอยากมอบอะไรให้ผู้ชมหนังเรื่องนี้
เดมี ซิงเกิลตัน: ฉันคิดว่าสาระสำคัญของหนังก็คือความสำคัญของระบบสนับสนุนที่เข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว อย่างที่ฉันบอก ฉันว่าเซเรนากับวีนัสคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ถ้าขาดครอบครัว ทุกสิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญมาในวัยเด็กและการฝ่าฟันเพื่อก้าวเป็นที่หนึ่งเป็นสิ่งที่คนคนเดียวคงรับไม่ไหวถ้าขาดการสนับสนุนจากครอบครัว และการมีระบบสนับสนุนที่เข้มแข็งนั้นสำคัญมาก นอกจากนี้คือจงเป็นคนใจกว้างและถ่อมตน สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับริชาร์ด ความถ่อมตนและความใจกว้าง
คำถาม: คุณก็เป็นคนถ่อมตน ใจกว้าง และมีความสามารถมากด้วย...
เดมี ซิงเกิลตัน: ขอบคุณค่ะ
คำถาม: สนุกมากที่ได้คุยกับคุณวันนี้และหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จ เราคงจะได้คุยกันอีกนะ
เดมี ซิงเกิลตัน: ค่ะ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ขอบคุณค่ะ