posttoday

ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก

24 พฤศจิกายน 2560

เวลาทำอาหาร แก้วชอบรสชาติและสัมผัสที่ตรงข้ามกัน และเชื่อว่าเวลากินอาหารจะต้องมีรสมาเบรกกัน

 

รายการมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ครั้งที่ 1 จบไปนานแล้ว โดยตำแหน่งมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก ตกเป็นของ แก้ว-ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร สาวสวยวัย 24 ปี จาก จ.ปทุมธานี ที่บุคลิกและอุปนิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน และมีน้ำใจ ถ้าเปรียบเธอเหมือนนักมวยก็เป็นนักมวยที่พูดน้อยแต่ว่าต่อยหนัก โดยมีทีเด็ดให้คนเชียร์ได้ลุ้นเสมอ

หากยังจำกันได้ เมนูของคาว “ยามสนธยา” ในวันตัดสินรอบชิงชนะเลิศที่แก้วสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ชมทางบ้านที่ชมผ่านหน้าจอช่อง 7 สี ถึงกับเบิกตาและเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กันกับไอเดียสุดบรรเจิดของเธอ เพราะเป็นเมนูที่แก้วรวมเอาท้องทะเลและผืนดินมาไว้ด้วยกัน ก็คือปลาแซลมอนสมุนไพร กินกับข้าวมัน และน้ำซุปต้มยำไก่ใส่ดอกอัญชัน

“เวลาทำอาหาร แก้วชอบรสชาติและสัมผัสที่ตรงข้ามกัน และเชื่อว่าเวลากินอาหารจะต้องมีรสมาเบรกกัน ไม่ใช่หวานก็หวานเจี๊ยบไปเลย อย่างเวลาถ้าแก้วทำของหวาน ก็จะใส่เกลือลงไปนิดหนึ่ง เป็นต้น ดังนั้นอาหารที่นำเสนอตัวแก้วได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นอาหารที่มีการผสมผสานที่ลงตัวค่ะ

 

ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก

 

ยามสนธยา จึงเป็นเมนูหนึ่งที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างทะเลกับผืนดิน ในทะเลก็คือปลา บนผืนดินก็คือน้ำซุปไก่ ช่วงสนธยาคือยามที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน แก้วใช้อัญชันกับน้ำมะนาวในการนำเสนอ น้ำซุปที่ใส่ดอกอัญชันจะเป็นสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล แต่พอหยดน้ำมะนาวลงไปจากสีฟ้าก็จะค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงเหมือนช่วงเวลาสนธยาค่ะ”

ความสำเร็จของแก้วในครั้งนี้ มิเพียงทำให้คนทั้งประเทศรู้จักเธอมากขึ้น แต่เหนืออื่นใดการสมัครเข้าแข่งขันมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ นอกจากได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้ว ยังทำให้รู้ว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของชีวิตเธอคืออะไร ที่สำคัญการเป็นมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ทำให้ได้สลัดทิ้งซึ่งความไม่มั่นใจในตัวเองที่อยู่กับตัวมานานออกไปหมดสิ้น

 

ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก

  

“ที่แก้วตัดสินใจสมัครแข่งขันเพราะชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก เวลาแม่ทำอาหารก็จะเข้าไปช่วย และแม่จะให้แก้วชิมตลอด แม่บอกว่าในบ้านแก้วเป็นที่รับรสได้ดีที่สุด ตอนอยู่ ม.5-6 ก็เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปอยู่เยอรมนี ยิ่งได้ทำอาหารกินเองเกือบทุกวัน ฉะนั้นจึงอยากรู้จักอาหารมากขึ้น อยากรู้ว่าตัวเองเก่งอะไร อยากรู้ว่าจุดมุ่งหมายชีวิตคืออะไร และอยากสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เพราะตลอดชีวิตรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เก่งอะไรเลยและไม่เคยรู้สึกมั่นใจในตัวเองว่าทำอะไรได้ดี

ทุกอย่างที่พ่อแม่ว่าดีก็ทำให้ค่ะ คือ เป็นคนหัวอ่อน (หัวเราะ) อย่างเรื่องเรียนแก้วอยากเรียนทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แต่พ่อแม่อยากให้เรียนจุฬาฯ ก็ว่าตามท่าน แก้วเลือกนิเทศศาสตร์ จบแล้วจึงไปเรียนทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นคอร์สสั้นๆ พอมาแข่งมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์แล้ว แก้วได้ทุกอย่างโดยเฉพาะได้เห็นคุณค่าและความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นๆ เวลาที่ได้รับคำชมจากคณะกรรมการในอาหารของแก้ว ทำให้มั่นใจภูมิใจในตัวเองมากขึ้น ต่างจากก่อนหน้านี้แทบไม่มีเลย”

 

ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก

  

แก้วยอมรับอีกว่า ในการแข่งขันยังได้อะไรอีกมากมาย เช่น ได้เพื่อน ได้รู้จักการใช้ชีวิตในสังคม ได้ฝึกการตัดสินใจที่รวดเร็ว ฝึกการวางแผน รวมถึงได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น การทำงานเป็นทีม การได้เรียนรู้วัตถุดิบใหม่ๆ ที่สำคัญคือได้ความรู้จากคำแนะนำ รวมทั้งคำติและคำชมจากคณะกรรมการทั้งสามคนเยอะมาก  

“ถ้าถามก้าวต่อไปคืออะไร แก้วไม่ได้มองว่าตัวเองจะต้องเป็นอะไร ขอแค่ได้อยู่กับอาหารก็มีความสุขแล้วค่ะ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ให้ดูแลอาม่าซึ่งท่านป่วยอยู่ นอกจากดูแลอยู่เป็นเพื่อนก็จะทำอาหารให้ท่าน อาม่าจะชอบหมูพะโล้ฝีมือแก้วเป็นพิเศษ เป็นหมูพะโล้ที่ไม่หวาน แก้วจะใส่เครื่องพะโล้ให้หอมๆ ส่วนหมูเอาไปต้มด้วยหม้อแรงดันจะทำให้เนื้อนิ่มมากค่ะ” &O5532;