posttoday

เป็กกา รันทาลา การกลับมาของอดีตเบอร์ 1

30 กันยายน 2560

ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยกับ เป็กกา รันทาลา ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global)

โดย ภาดนุ 

ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยกับ เป็กกา รันทาลา ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) ที่ได้รับลิขสิทธิ์การออกแบบและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตแบรนด์โนเกีย (Nokia) ทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว

ในฐานะซีเอ็มโอ (Chief Marketing Officer) ที่มีความสามารถด้านการบริการและมีวิสัยทัศน์กว้างไกลคนหนึ่ง เมื่อเป็กกาได้กลับมาเป็นผู้บริหารดูแลแบรนด์โนเกียอีกครั้ง ทำให้อยากรู้ว่าเขาจะนำพาโนเกียกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้อย่างไร

“ผมกลับมาดูแลบริหารแบรนด์โทรศัพท์มือถือโนเกียและแท็บเล็ตอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปบริหารธุรกิจสายอื่นมาพักใหญ่ การกลับมาครั้งนี่เราได้ตั้งบริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล ขึ้นในประเทศฟินแลนด์ได้ 8 เดือนแล้ว โดยเราเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในตอนนี้

 "ต้องเท้าความนิดนึงว่า ก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นช่วงที่ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารของโนเกียอยู่ช่วงหนึ่ง โนเกียเองได้มีการร่วมธุรกิจกับบริษัท ไมโครซอฟท์ โดยออกโปรดักต์ต่างๆ อย่าง ฟีเจอร์โฟน โนเกีย รุ่นลูเมีย ออกจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันนี้ธุรกิจของแบรนด์โนเกียทั้งหมดได้ย้ายมาอยู่ภายใต้ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล แล้ว ซึ่งเราจะดูแลในเรื่องของสมาร์ทโฟน พูดง่ายๆ ว่าบริษัทเราเป็นเหมือนสตาร์ทอัพที่เริ่มต้นธุรกิจแบรนด์โนเกียยุคใหม่นั่นเอง”

เป็กกา รันทาลา การกลับมาของอดีตเบอร์ 1

เป็กกา บอกว่า ความตั้งใจของบริษัทคือการเน้นบิซิเนส โมเดล นั่นก็คือการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะเป็นโปรดักต์ที่เป็นมือถือแอนดรอยด์ ซึ่งใช้ความร่วมมือทางด้านบริการจากกูเกิล ส่วนผู้ผลิตมือถือให้ก็คือ บริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิตมือถือออปโป้ โดยหลักๆ แล้วก็คือการเลือกเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่ดีที่สุดที่คัดสรรมาแล้ว

“อย่างพันธมิตรล่าสุดของเราอีกหนึ่งรายก็คือ บริษัท คลาวด์ไซส์ (Cloud Zeis) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเลนส์ถ่ายภาพสำหรับใช้ในมือถือจากเยอรมนี โดยในอนาคตลูกค้าที่ใช้โนเกียก็จะได้เห็นว่ามือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ออกวางจำหน่ายจะมีการใช้เลนส์คลาวด์ไซส์นี้ ซึ่งถือว่าเป็นเลนส์ที่ดีที่สุดเลนส์หนึ่งในโลก

"นอกจากการมีพาร์ตเนอร์ที่ดีที่สุดแล้ว การที่เรามีพนักงานรุ่นใหม่ๆ หรือพนักงานเดิมที่เคยทำบริษัทโนเกียมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่งทุกคนมีความรักในแบรนด์โนเกียก็ถือเป็นข้อดี อีกอย่างการที่ผมอยู่ในธุรกิจมือถือมากว่า 20 ปี และเคยเป็นผู้บริหารในบริษัท โนเกีย มาก่อน (มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ออกไปเป็นผู้บริหารธุรกิจอื่น)

"ผมจึงมั่นใจได้ว่าการที่ผมและทีมตั้งบริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล ขึ้นมา ทุกคนล้วนมีประสบการณ์และความรักความชำนาญติดตัวมาอยู่แล้วก็น่าจะทำได้ดี ส่วนในแง่ของไอเดียใหม่ๆ ตอนนี้ก็มีพนักงานรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มไอเดียด้วย ดังนั้นในอนาคตผมจึงคิดว่า วิสัยทัศน์ทางด้านการตลาดและการคิดค้นโปรดักต์ใหม่ๆ ก็น่าจะสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว”

เป็กกา เสริมว่า แม้ปัจจุบันนี้พฤติกรรมการใช้มือถือของผู้บริโภคยุคใหม่จะเปลี่ยนไปมากก็ตาม การที่บริษัทจ้างพนักงานบางส่วนจากบริษัท โนเกีย เดิมเข้ามาทำงานก็ไม่ใช่ปัญหา เขาจึงอยากจะให้ลูกค้าที่รักในแบรนด์โนเกียมั่นใจได้เลยว่า บริษัทจะไม่ก้าวถอยหลังไปสู่จุดเดิมแน่นอน แต่จะก้าวไปข้างหน้าและนำสิ่งใหม่ๆ ออกมาสู่สายตาลูกค้าทั่วโลกแน่นอน

 “ถ้าถามว่าผมจะทำอย่างไรให้โนเกียกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ก็ขอตอบเลยว่า อย่างแรกคือ เราจะใช้ชื่อเสียงเดิมของแบรนด์ที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่คนทั่วโลกรู้จักและชื่นชอบ เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจของเรานับจากนี้ไป อย่างที่หลายคนทราบดีว่าแบรนด์โนเกียมีมายาวนานกว่า 150 ปีแล้ว และถือเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่า

เป็กกา รันทาลา การกลับมาของอดีตเบอร์ 1

"ดังนั้น สิ่งที่บริษัทจะต้องทำก็คือ การบริหารจัดการให้โนเกียกลับมาเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ เป็นแบรนด์ที่มีลูกค้ารักและชื่นชอบที่จะใช้โปรดักต์ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดีๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างแน่นอน เพื่อให้โนเกียกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

"ถ้าจะให้เทียบกับคู่แข่งอย่างแบรนด์แอปเปิ้ล (ไอโฟน) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ผลิตขึ้นมาตามเทรนด์ความนิยมของโลกยุคนี้ โนเกียก็มีจุดเด่นคือเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ มีความทนทาน และผู้บริโภครักที่จะใช้ ต้องบอกก่อนว่าโนเกียไม่ได้ต้องการเป็นแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ทั้งที่เราก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหล่านี้ได้ แต่เราต้องการจะเป็นแบรนด์ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคนมากกว่า อาทิ โนเกีย 5 โนเกีย 6 ที่ออกวางจำหน่ายไปแล้ว เราจะเน้นความเป็นมือถือที่เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย และทุกคนสามารถใช้มันได้ด้วยความที่มันเป็นโนเกีย”

อย่างที่เป็กกาบอก คนที่ใช้สมาร์ทโฟนซึ่งมีเทคโนโลยีสุดล้ำในโลกนี้ ถ้านับจริงๆ แล้วจะเป็นคนรุ่นใหม่เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่กลุ่มแมสหรือคนส่วนใหญ่ที่เป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่ ปู่ย่าตายาย ก็มักต้องการใช้ฟังก์ชั่นหลักๆ เช่น ไลน์ โทรเข้า โทรออก ซะส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ยิ่งกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็กกา บอกว่า โนเกียก็ไม่อาจมองข้ามการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน

“ผมขอยกตัวอย่างข้อดีในเรื่องดีไซน์ของมือถือโนเกีย ว่าการออกแบบของเราเป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบได้ยาก แถมตัวเครื่องยังน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ปัจจุบันวางจำหน่ายไปแล้ว 3 รุ่น คือ โนเกีย 3 โนเกีย 5 และโนเกีย 6 ซึ่งตัวเครื่องทุกรุ่นหล่อจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว แต่เราการันตีได้เลยว่า นอกจากมีความทนทานมากๆ แล้ว น้ำหนักยังเบากว่าแบรนด์อื่นๆ อีกหลายแบรนด์ แถมราคาถูกกว่าอีกด้วย

"ผมว่ามือถือโนเกียเป็นการให้ประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าที่มีโอกาสได้ใช้มากกว่า เพราะคอนเซ็ปต์ของโนเกียจะเป็น Craftsmanship หรือคนทำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้คนได้ใช้ ได้สัมผัสกับประสบการณ์ แถมข้อดีในการใช้งานก็มีอยู่จริง สำหรับวันนี้โนเกียเป็นมือถือระบบแอนดรอยด์ แต่เป็นแอนดรอยด์ที่มีความแตกต่าง เพราะหากคุณเคยใช้มือถือแอนดรอยด์จากแบรนด์อื่นๆ มาก่อน แต่ละแบรนด์ก็จะมีไอคอนหรือหน้าตาธีมในการใช้งานของไอคอนนั้นแตกต่างกันไป แต่เพราะโนเกียเป็น Pure Android ดังนั้นเวลาที่ผู้ใช้ต้องการจะอัพเดทข้อมูลหรือไอคอน หน้าตาของไอคอนของโนเกียและระบบปฏิบัติการของซอฟต์แวร์ก็จะเหมือนเดิม

"แต่ขณะเดียวกัน ถ้าคุณใช้มือถือแอนดรอยด์แบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ Pure Android พอ 2 ปีผ่านไป เมื่อมีการอัพเดทไอคอนหรือระบบปฏิบัติการใหม่ ทุกอย่างก็อาจจะเปลี่ยนไปจนคุณจำไม่ได้ หรือเกิดอาการงงๆ ขึ้นมาก็เป็นได้ อย่างตอนนี้โนเกียก็จะมีระบบนูแกดที่ใช้กันอยู่ แต่ในอนาคตอันใกล้ก็จะมีแอนดรอยด์โอ ซึ่งเป็นเพียวแอนดรอยด์ออกมา ซึ่งจะอัพเดทระบบปฏิบัติการให้ผู้ใช้ในทุกเดือน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับผู้ใช้ ซึ่งถ้าไม่ใช่เพียวแอนดรอยด์ เวลาที่อัพเดทเครื่องก็จะทำให้เครื่องหนักขึ้นหรือเปลืองเมมโมรี่มากเกินไปโดยไม่จำเป็น โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพที่ต้องการใช้จริงๆ จาก Play Store และสามารถลบแอพที่ไม่จำเป็นต้องใช้หรือดาวน์โหลดใหม่ได้เสมอ นี่คือข้อแตกต่างของระบบแอนดรอยด์ของโนเกียกับแบรนด์อื่น”

เป็กกา รันทาลา การกลับมาของอดีตเบอร์ 1

เป็กกา ทิ้งท้ายว่า ในอนาคตโนเกียจะมีมือถือที่ทำให้คนรุ่นใหม่เซอร์ไพรส์ตามมาแน่นอน แต่อย่างที่บอกว่าบริษัทเพิ่งปล่อยมือถือโนเกียไปแล้ว 3 รุ่น โดยเปิดตัวที่เมืองไทยเป็นประเทศแรกในเซาท์อีสต์เอเชีย ซึ่งมือถือทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นสเปกที่จำนวนคนจากครึ่งค่อนโลกใช้กันอยู่ ล่าสุดก็มีโนเกีย 8 ออกมาที่เมือวงไทยแล้ว

“ต้องยอมรับว่ายุคนี้มีกลุ่มลูกค้าที่ชอบใช้มือถือที่มีฟังก์ชั่นไฮเทคก็จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนจำนวนมากก็ใช้มือถือที่มีระบบปฏิบัติการของแอนดรอยด์กลุ่มใหญ่เช่นกัน เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เป็นต้น ปัจจุบันเรามีโนเกียรุ่น 3, 5, 6 และ 8 แล้ว ต่อไปเราก็อาจจะมีรุ่นที่เหนือขึ้นไปออกมาอีก ซึ่งเรายังชูจุดเด่นหลักๆ ของโนเกีย คือ เป็นมือถือที่ใช้ง่าย คุณภาพดี ทนทาน ส่วนเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็อยากให้รอดูต่อไปครับ

"ในอดีตหลายคนอาจจะมีคอมเมนต์ในเรื่องมือถือโนเกียที่มีระบบปฏิบัติการแบบวินโดวส์โฟน ว่าใช้ยาก หรือผู้คนไม่ค่อยเข้าถึงมากนัก เรื่องนี้ผมขอไม่ออกความเห็นดีกว่า เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารของโนเกีย เพราะผมไปบริหารธุรกิจคอนซูเมอร์โปรดักต์ และธุรกิจของบริษัท Rovio ที่ชื่อว่า Angry Birds ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเกม ผมจึงขอไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมไม่ได้ดูแลบริหารน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า”

ในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารที่เคยนำพาเกมแองกรี้เบิร์ดเปิดตัวตีตลาดจนเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เป็กกาบอกว่า เขาจะนำวิสัยทัศน์ วิธีคิด วิธีบริหาร และอื่นๆ มาใช้กับการบริหารงานของโนเกียใหม่ เพื่อทำให้โนเกียเป็นที่รักของผู้บริโภคอีกครั้ง

“ตอนที่ผมอยู่บริษัท Rovio ผมมองว่า การทำงานเป็นทีมเวิร์กนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเกม ซึ่งเป็นที่แพร่หลายและชื่นชอบของคนจากทั่วโลก ผมจึงคิดจะนำข้อดีของธุรกิจเกี่ยวกับเกมออนไลน์และโกลบอล โมบาย มาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคในอนาคต และตอนนี้เราก็มีทีมที่มีความสามารถอยู่ในบริษัทมากมาย

"สิ่งที่ผมคาดหวังก็คือ ผมอยากจะทำให้มือถือโนเกียกลับมามีชื่อได้อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายว่าอยากจะเป็น Top Player หรือ Top Leader ในกลุ่มสมาร์ทโฟนให้ได้ แต่เราก็ยังมีกลุ่มฟีเจอร์โฟนซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่จากทั่วโลกที่เราต้องทำการตลาดควบคู่ไปด้วย เอาเป็นว่าอยากให้คนที่เป็นแฟนของโนเกียรอติดตามโปรดักต์ใหม่ๆ ของเราในอนาคตดีกว่า เพราะจะมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นให้แฟนๆ โนเกียจากทั่วโลกได้เห็นแน่นอนครับ”