posttoday

เพียงพร สุวรรณประทีป นักธุรกิจหญิงในนิยาม ‘คนเครื่องสำอาง’

25 กรกฎาคม 2560

คร่ำหวอดในธุรกิจเครื่องสำอางมากว่า 15 ปี เพียงพร สุวรรณประทีป กรรมการผู้จัดการ พิงค์ พีโอ วันนี้เปิดตัวในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางเรดเอิร์ธ

เรื่อง ปอย

คร่ำหวอดในธุรกิจเครื่องสำอางมากว่า 15 ปี เพียงพร สุวรรณประทีป กรรมการผู้จัดการ พิงค์ พีโอ วันนี้เปิดตัวในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางเรดเอิร์ธ ที่ดูเหมือนว่าแบรนด์จะอยู่นิ่งๆ ไม่มีกระแสหวือหวามาสักพัก หากแต่ในวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจความงามกลับเล็งเห็นว่า เครื่องสำอางที่มียอดขายเฉลี่ยต่อปีสูงกว่า 70-80 ล้านบาท ตัวเลขแม้ไม่แรงนักในด้านการตลาด แต่แสดงถึงฐานลูกค้าเหนียวแน่น ให้ความชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งสกินแคร์ เมกอัพ และให้การสนับสนุนแบรนด์อยู่อย่างต่อเนื่อง

โอกาสนำเรดเอิร์ธกลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง จึงไม่น่าเป็นโจทย์ยาก เพียงพร กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจในฐานะที่เรียกตัวเองว่า "คนเครื่องสำอาง" รับหน้าที่กุมบังเหียนครั้งใหม่ในตลาดแวดวงความงาม

ความสวยแบบออสเตรเลียเพียงพร สุวรรณประทีป

หลักในการเลือกเครื่องสำอางเบื้องต้น เพียงพร บอกเหตุผลแรกไม่ใช่ราคา แต่เป็นการมองโดยรวมผสมผสานตั้งแต่แพ็กเกจจิ้ง และคุณภาพ

"ดิฉันมองว่าไม่ต่างจากผู้ใช้ คือรัก ชอบ มองแล้วใช่ จึงตัดสินใจเลือกใช้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้ค่ะ

ในส่วนของประวัติแบรนด์ ก็น่าสนใจ และเป็นอีกเรื่องที่น่าศึกษาน่าค้นหาร่วมด้วยค่ะ เรดเอิร์ธก่อกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 1991 วันนี้อายุเป็นหญิงสาวสวยเต็มวัยค่ะ 26 ปีแล้ว และเข้ามาเมืองไทยได้ 20 ปีแล้วนะคะ เป็นช่วงเวลายาวนานและกระแสค่อนข้างนิ่งแล้ว

จึงไม่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจ้าของแบรนด์ติดต่อดิฉัน แล้วแจ้งความจำนงว่าต้องการให้เป็นตัวแทนผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางเรดเอิร์ธ เจ้าของรายนี้ก็เป็นรายใหม่เช่นกันค่ะ เป็นชาวฮ่องกงซื้อแบรนด์มาจากออสเตรเลีย ซึ่งก็เป็นเหตุผลทำให้โททัลลุคของแบรนด์เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด แต่ในด้านคุณภาพคงความเป็นแบรนด์ธรรมชาติจากออสเตรเลีย เป็นการรักษารากฐานเดิมแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาตินี้ไว้ได้ทุกๆ ประการ ซึ่งตลาดถูกสร้างสรรค์ไว้ชัดเจนดีแล้ว

พอได้คุยกันแล้วดิฉันตอบตกลงภายใน 2 ชั่วโมง (บอกพร้อมรอยยิ้ม) ประทับใจที่เขาบอกว่าตามหาตัวดิฉันทุกๆ ช่องทาง นานกว่า 6 เดือนแล้ว แสดงความตั้งใจกับการสร้างแบรนด์ครั้งใหม่ จากภาพลักษณ์เดิมๆ ที่แพ็กเกจจิ้งสีขาวบ้าง สีทองบ้าง แต่หน้าตาใหม่คือการคงรูปลักษณ์เครื่องสำอางสัญชาติออสเตรเลียไว้ได้ นี่คือความประทับใจที่สุด เขาเป็นนักธุรกิจฮ่องกงแต่ไม่ลืมความเป็นออสเตรเลียน ยกตัวอย่างเช่น สกินแคร์ ส่วนผสมจากธรรมชาติ และเมดอินออสเตรเลียร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่คือหัวใจหลักเลยค่ะ

ย้อนกลับไป 10-20 ปีที่แล้ว แบรนด์เครื่องสำอางจากทวีปนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าสกินแคร์หรือเมกอัพหลายๆ แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ล้วนถูกสร้างสรรค์ในแนวคิดเดียวกัน คือ Real Australian Beauty ดิฉันมองเห็นว่า โจทย์ต่อไปในการสร้างแบรนด์ให้กลับมามีกระแสตอบรับที่ดีในตลาดความงามอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ

ความสวยแบบออสเตรเลีย โจทย์นี้เกี่ยวข้องกับสาวไทยได้ไหม? ไลฟ์สไตล์ของเขาคือการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ สนุกไปกับกิจกรรมกลางแจ้งหลายๆ อย่าง เช่น เดินป่า ปีนเขา ว่ายน้ำในทะเล แต่พวกเธอก็คงความสวยไว้ได้ โดยไม่ต้องแต่งเติมมากมาย ซึ่งนี่คือความงามสากลและเป็นสิ่งที่หญิงสาวหลายคนปรารถนา ผู้หญิงเรดเอิร์ธเช่นเดียวกันค่ะ พวกเธอรักสวยรักงามแน่นอนอยู่แล้วนะคะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องนั่งแต่งหน้าประโคมกันบ่อยๆ ทั้งวัน ไม่ได้อินกับการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวในชีวิตนี้ เพียงแต่ต้องการวิธีเติมแต่งที่เพิ่มความงามได้อย่างเป็นธรรมชาตินะคะ"

เพียงพร อธิบายคล่องแคล่วโชว์ลักยิ้มติดใบหน้าตลอดการสนทนา ความรู้จริงในแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาบริหาร เปิดตัวขึ้นบนเวทีแนะนำเครื่องสำอางเรดเอิร์ธ ผู้บริหารหญิงแนะด้วย ตัวเองทุกชิ้น ครบทุกไลน์สกินแคร์

"เริ่มต้นสกินแคร์ก่อนค่ะ ต่อจากนั้นยี่ห้อเรดเอิร์ธก็ต้องมีเมกอัพแน่นอน แต่การวางตัวเป็นเนเชอรัลเมกอัพ ผลิตภัณฑ์หมวดนี้ก็จะไม่มากเท่าสกินแคร์ ดิฉันยกตัวอย่างเช่นอายแชโดว์ ก็ไม่ได้มีสีสันจี๊ดจ๊าดมากมาย แต่มีสีเบสิกครบใช้ได้ทุกสี ติดกระเป๋าไว้ไม่มีพลาดใช้ได้ทุกกาลเทศะ

ดิฉันศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง รู้ลึกทุกๆ ชิ้นค่ะ ซึ่งก็เป็นหลักในการทำงานที่เจ้าของธุรกิจจะต้องรู้จริง และรู้ก่อนที่ลูกน้องจะรู้ เมื่อพนักงานไม่เข้าใจหรือเข้ามาสอบถาม เอ็มดีสามารถตอบได้ถูกต้องทุกๆ คำถามค่ะ แล้วธรรมชาติของสินค้าทุกๆ อย่างในโลกใบนี้ ไม่มีหรอกค่ะ ที่ชิ้นนี้ดีที่สุด เพอร์เฟกต์ที่สุด ไม่ว่าชิ้นไหนก็ต้องมีข้อดี ข้อด้อย แล้วถ้าเรารู้ก็สามารถอธิบายให้พนักงานหน้าร้านส่งสารที่ถูกต้องต่อไปยัง ผู้บริโภคได้ดีด้วยนะคะ"

ไม่ได้รักสวยรักงามสักเท่าไร

คำสารภาพของผู้บริหารวงการบิวตี้ ที่ยอมรับพร้อม เสียงหัวเราะสดใส ว่าไม่ใช่ผู้หญิงดูแลตัวเองในเรื่องสวยๆ งามๆ สักเท่าไรนัก แทบไม่ได้ดูแลตัวเองเลยก็ว่าได้ แต่การคลุกคลี อยู่วงการเครื่องสำอางได้ดี ก็เพราะหลังร่ำเรียนจบปริญญาโทเอ็มบีเอ จากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน สหรัฐ เส้นทางอาชีพเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้เริ่มต้นด้วยความบังเอิญ

"ดิฉันจัดเป็นลูกหม้อเก่า มีโอกาสได้ทำงานที่ไมเนอร์คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ดังระดับโลก หลายแบรนด์เลยนะคะ ซึ่งเครื่องสำอางสัญชาติออสเตรเลียก็มาเกือบครบ แล้วก็มีเรดเอิร์ธรวมอยู่ด้วยค่ะ เจ้านายก็ให้โอกาสในการดูแลสร้างแบรนด์ ที่ตอนนั้นเพิ่งเข้ามาเมืองไทย มาวันนี้ก็ได้แบรนด์กลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง บอกได้นะคะว่าพรหมลิขิต (บอกพร้อมรอยยิ้ม) หรือถ้าบอกว่าการได้มาอยู่ในธุรกิจนี้ เป็นเรื่องจับพลัดจับผลูก็ได้นะคะ เพราะไม่ใช่คนรักสวยรักงามเอาเลยก็ว่าได้ค่ะ

อย่างเช่นจะขึ้นเวทีแนะนำผลิตภัณฑ์คอลเลกชั่นใหม่วันนี้ ลูกน้องก็ต้องหาครีมมาทาขาให้เจ้านายจะได้ไม่ดูแย่มากนัก (หัวเราะ) ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี คณะบัญชี จุฬาฯ ก็ไม่ใช่สไตล์คุณหนูหวานๆ สวยๆ เลยนะคะ ไปเรียนแต่งหน้าก็แค่ ทาแป้ง เขียนคิ้ว ทาลิปนิดหน่อยแค่นั้นเอง พอแล้วค่ะ

แล้วได้มาอยู่วงการนี้ก็ไม่ได้ชอบลองของใหม่อะไรเลย ใช้ครีมกระปุกไหนก็ใช้แต่กระปุกนั้นไม่เคยเปลี่ยน การดูแลตัวเองยอมรับเลยค่ะ สกินแคร์กระปุกเดียวโปะทั้งกลางวันและกลางคืน ขั้นตอนเดียวสบายๆ ทาครีมแล้วนอน เพราะมีเรื่องที่ต้องให้เวลาดูแลมากกว่าตัวเอง ทั้งเรื่องของการงาน เรื่องครอบครัวดิฉันมีลูกสาวสองคนในวัยเรียนที่เป็นช่วงวัยต้องดูแลให้เวลาเขาอย่างเต็มที่

ผิดคาดใช่ไหมคะ หลายคนมองเป็นคุณหนู คุณนาย ดิฉันเติบโตมากับการเลี้ยงดูของคุณพ่อ (พล.ต.ท.อุกฤษฎ์ ปัจฉิมสวัสดิ์) ท่านติดดินมาก ส่วนคุณแม่ (นลินี ปัจฉิมสวัสดิ์) ทุกกาลเทศะเป๊ะมากพร้อมสวยตลอดเวลา เราก็เลือกหยิบใช้ทั้งสองฝั่ง แต่ส่วนใหญ่เลือกฝั่งน้อยๆ ของคุณพ่อ เพราะสบายกว่าค่ะ"

เพียงพร บอกว่าเมื่อต้องทำงานจริงจัง ความรักในอาชีพสายนี้ก็เกิดขึ้น เพราะความรักในทีมงาน การสร้างทีมงานให้มีคุณภาพคือหัวใจหลักในการสร้างสรรค์แบรนด์ความงาม ซึ่งมีการแข่งขันสูงมากในเวลานี้

"มีธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และอาหารเสริม แบ่งเป็น 2 บริษัทค่ะ โดยธุรกิจหลักอยู่ที่ พิงค์ พีโอ ซึ่งมีกำลังอยู่ในช่วงพิตชิ่งเครื่องสำอางแบรนด์ดังเข้ามาอีก 2-3 แบรนด์จากทั่วโลก ทั้งฝั่งยุโรป และฝั่งเกาหลี ในราคาค่อนข้างแมส เป็นการสร้างแบรนด์ไม่ให้ทับไลน์กันค่ะ สิ่งที่ทำให้เราชนะโอกาสในการ พิตชิ่งแบรนด์ คือเราไม่ทำหน้าที่เพียงซื้อมาขายไป ในแบบ ดิสทริบิวเตอร์ แต่ดิฉันวางหน้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ลงทั้งตัวเงินลงทุน และสู้ต่อไปสร้างสรรค์แบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยกัน

ตลาดเครื่องสำอางก้าวสู่ตลาดโกลบอลอย่างเต็มตัว มี นักลงทุนเยอะขึ้น ทั้ง 'คนเครื่องสำอาง' ในแบบเรา มีทั้ง นักลงทุนหน้าใหม่ๆ ที่ก้าวเข้ามาขอชิมลางในตลาดนี้ หลายๆ รายมาง่ายแล้วก็หายไปได้ง่ายๆ เช่นกันค่ะ สถานการณ์ในไทยเริ่มคล้ายๆ กับเกาหลีที่มีเกือบ 8,000 แบรนด์ แบรนด์เกิดใหม่ทุกวันค่ะ ซึ่งนี่ก็คือความท้าทายของ พิงค์ พีโอ ที่มีเป้าหมายในการเลือกสร้างสรรค์แบรนด์เครื่องสำอางใหม่

หลักการของเราไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์โด่งดังอะไรเลยนะคะ แต่เมื่อนำเข้ามาแล้วเป็นแบรนด์ที่สามารถเติบโตต่อไปได้ค่ะ"

เพียงพรบอกอย่างมั่นใจในฐานะ "คนเครื่องสำอาง" ที่พร้อมก้าวเติบโตต่อไปไม่หยุดยั้งในตลาดวงการความงาม ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรวงการนี้ก็ไม่เคยหลับใหล n