posttoday

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตำนานเป็ดโฟซีซั่นเมืองไทย

28 มีนาคม 2558

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ วัยย่าง 38 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีแอลเอสเอ(ประเทศไทย) ที่เป็นมืออาชีพที่อายุน้อยที่สุดที่ตั้งแต่อายุ 35 ปี

โดย... เจียรนัย อุตะมะ ภาพ... ภัทรชัย ปรีชาพานิช

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ วัยย่าง 38 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีแอลเอสเอ(ประเทศไทย) ที่เป็นมืออาชีพที่อายุน้อยที่สุดที่ตั้งแต่อายุ 35 ปี และประสบความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัวในฐานะหุ้นส่วนร้านเป็ดย่างชื่อดังโฟร์ซีซั่นส์ที่มีสาขาในไทยเป็นแห่งที่ 4 แล้ว และกำลังจะเปิดสาขาที่ 5 เดือน เม.ย.นี้

เขาเป็นบุตรชายคนโตของอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) และอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(อังค์ถัด) ศุภชัย และ ศสัย พานิชภักดิ์ เดินทางไปใช้ชีวิตในต่างแดนตั้งแต่วัยรุ่นอายุ 12 ปี จบ ม.2 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และไปเรียนต่อที่โรงเรียนชาร์เตอร์เฮาส์ สคูล ในเมืองเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ จากนั้นเรียนต่อปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ลอนดอน สคูล ออฟ อีโคโนมิกส์ (แอลเอสอี)

ความที่ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ได้เดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป พร้อมกับชิมอาหาร และความที่เป็นนักชิมชอบรับประทานอาหารอร่อย ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยช่วงปิดเทอมยังเคยฝึกงานหาประสบการณ์กับร้านอาหารดัง บลู เอเลเฟ่นท์ที่ลอนดอน

ตำนานของร้านเป็ดย่างชื่อดังโฟร์ซีซั่นส์ในเมืองไทย เริ่มต้นเมื่อปริญญ์ได้รู้จักและสนิทสนมกับปีเตอร์ แลม ลูกชายเดวิด แลมเจ้าของร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นส์ ต้นตำรับ ลอนดอน ประเทศอังกฤษทำให้เขามีความคิดอยากนำร้านเป็ดย่างนี้มาเปิดในเมืองไทย แต่ความฝันนั้นใช้เวลากว่าจะได้เริ่มต้น

หลังเรียนจบปริญญ์เริ่มงานแรกที่ลอนดอน เป็นนักวิเคราะห์ที่ธนาคารเมอร์ริล ลินช์ จากนั้นย้ายไปเป็นวาณิชธนากรที่ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร แล้วกลับมาเมืองไทยมาทำงานเป็นรองประธานที่ดอยช์แบงก์ จากนั้นย้ายไปเป็นหัวหน้าฝ่ายตลาดเครดิต ลียองเนส์ประเทศไทย ก่อนที่จะโยกไปเป็นผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการลงทุนภูมิภาคเอเชีย บริษัท เครดิต ลียองเนส์ (ฮ่องกง) ช่วงเวลานี้เองที่เขาเริ่มนำร้านเป็ดย่างชื่อดังในกรุงลอนดอน มาเปิดสาขาในไทย

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตำนานเป็ดโฟซีซั่นเมืองไทย

เมื่อสถานการณ์การเมืองไทยเริ่มสงบ และสามารถหาพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนได้แล้ว ร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นส์จึงได้ฤกษ์เปิดในเดือน ต.ค. 2554 ในรูปแบบหุ้นส่วน โดยปริญญ์และหุ้นส่วนที่เป็นคนไทยถือเกิน 50% ที่เหลือเป็นของปีเตอร์และญาติ

“ผมช่วยดูการตลาดประชาสัมพันธ์ด้านโลจิสติกส์ หาฟาร์มเลี้ยงเป็ดในไทย โดยนำพันธุ์เป็ดมาเลี้ยง จัดหาวัตถุดิบบางอย่างมาตรฐานการเลี้ยงเป็ด การย่าง หมักเป็ด เป็นไปตามมาตรฐานสูตรจากอังกฤษ และจ้างกรรมการผู้จัดการที่เป็นมืออาชีพมาดูแล มีเชฟจากฮ่องกงที่เป็นคนจีนซึ่งเคยเป็นเชฟอยู่อังกฤษมาประจำทุกสาขา”

ปริญญ์บินจากฮ่องกงมาดูแลร้านทุกอาทิตย์ ส่วนปีเตอร์ดูแลด้านโนว์ฮาวการทำอาหารในร้าน หุ้นส่วนอีกคนดูเรื่องการบริหารจัดการ

“เราเน้นคนชั้นกลาง เพราะราคาอาหารไม่ได้แพงมาก”

นอกจากจะมีสาขาที่พารากอนแล้วยังมีอีก 3 สาขา คือ สาขาทองหล่อ 10 เมกามอลล์ บางนา เซ็นทรัล ชิดลม และกำลังจะเปิดสาขาที่ 5 ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ หรือดิ เอ็มโพเรียม 2

ในขณะที่อาชีพหลักก็ก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ จากเครดิต ลียองเนส์ ฮ่องกง ปริญญ์ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการลงทุนภูมิภาคเอเชียและญี่ปุ่น บล.ซี แอล เอส เอ (ฮ่องกง) และกลับมาเมืองไทยเป็นกรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอลเอส เอ (ประเทศไทย) ในวัยย่าง 35 ปี ที่เป็นมืออาชีพที่ขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรสูงสุดที่อายุน้อยที่สุดในเวลานั้น

ช่วงที่ปริญญ์เข้ามาเป็นผู้นำ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) บล.แห่งนี้ได้ทำธุรกรรมวาณิชธนกิจที่เป็นที่รู้จักของวงการตลาดทุนมากที่สุด อาทิ ปี2556 เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) เข้าซื้อหุ้นบริษัท เฟรเซอร์แอนด์นีฟ (F&N) บริษัทอสังหาริมทรัพย์และเครื่องดื่มของสิงคโปร์ที่ก่อตั้งมานาน 130 ปี และนับเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ปรึกษาการเงินระดมทุนนำกองทุนเทมเพิลตันเข้ามาซื้อหุ้นบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ)

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตำนานเป็ดโฟซีซั่นเมืองไทย

ปริญญ์ กล่าวว่า งานวาณิชธนกิจนั้นสายสัมพันธ์มีส่วนช่วยให้มีงานเข้ามา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาหรือหาทางออกที่ดีให้ลูกค้า โดยดูจังหวะและความเหมาะสม

“ผมจริงใจและใจเย็น ถ้าทำแล้วราคาไม่ได้ ไม่ทำอย่าง UNIQ เคยราคาลดลงมาก ผมรอมาปีกว่า จนตอนนี้บริษัทนี้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 9 บาท มาเป็นประมาณ 14 บาท”

นอกจากนั้น ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ นพ.สมยศ อนันตประยูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ขายหุ้นล็อตใหญ่ 5.5% ให้กลุ่มแคปปิตอล วัน กองทุนยักษ์ใหญ่จากสหรัฐที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัทไทยที่สนใจไปลงทุนต่างประเทศ โดยปัจจุบันผู้ถือหุ้นของ ซี แอล เอส เอ คือ บล.ซีติค ของรัฐบาลจีน ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบถ้าเป็นธุรกรรมระหว่างไทยและจีน โดยซี แอล เอส เอ มีสำนักงานในแถบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม

ปริญญ์ กล่าวว่า แม้มีสองบทบาทในการทำงานทั้งในฐานะมืออาชีพและหุ้นส่วนธุรกิจ แต่เขาทุ่มเทให้ซี แอล เอส เอ เกิน 100% ล่าสุดเพิ่มจัดสัมมนาระดับอาเซียนที่กรุงเทพฯ เขาต้องตื่น 06.00-07.00 น.พาลูกค้ากองทุนวิ่งออกกำลังกาย ก่อนที่จะเข้าประชุม07.30 น. และประชุมทั้งวัน ช่วงค่ำยังมีงานเลี้ยงรับรอง 2 คืนซ้อน

ความสำเร็จในชีวิตในเรื่องงานและธุรกิจทุกวันนี้ปริญญ์ กล่าวว่า ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ไปไกลอย่างรวดเร็ว ต้องขยันและทุ่มเท ช่วงเรียนต้องหมั่นอ่านหนังสือเข้าสมาคมที่สนใจสร้างเครือข่าย ทำความรู้จักผู้ใหญ่ รู้อะไร ต้องรู้ลึก รู้จริง

“ช่วงผมอยู่ดอยช์แบงก์ผมทำงานหนัก กลับดึกเริ่มงาน 7 โมงเช้า กลับ 4-5 ทุ่ม งานมีทั้งบู๊ทั้งบุ๋นให้เวลากับมัน เรียนรู้ทุกด้านทั้งหนังสือ อินเทอร์เน็ต หรือกับผู้เชี่ยวชาญ ผมชอบเดินทางเพื่อเปิดหูเปิดตาไม่ปิดกั้น พ่อและแม่สอนให้ผมมีสติ อยู่กับปัจจุบัน ระมัดระวัง ท่านเป็นผู้สอนวิชาใช้ชีวิตให้ผม”

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตำนานเป็ดโฟซีซั่นเมืองไทย

ครอบครัวให้ความรักความอบอุ่นแก่ปริญญ์ทำให้ชีวิตของเขาก้าวเดินอย่างมั่นคง

“คุณพ่อเป็นเสมือนเพื่อน รับส่งผมตั้งแต่อยู่เซนต์คาเบรียล ตอนนั้นโรงเรียนใกล้สำนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย สมัยนั้นคุณพ่อผมเป็น รมว.คลัง รมว.พาณิชย์และรองนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งผมโตปีกกล้าขาแข็งก็นั่งรถเมล์มาเจอท่านบ้างพ่อไม่ได้ตามใจ ทำให้ผมแข็งแกร่ง ท่านสั่งสอนให้คิดถึงและเอาใจใส่คนอื่นก่อน ไม่ได้แนะนำใครให้สอนให้ผมดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ ที่บ้านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโต พรหมรังสี คุณพ่อใกล้ชิดลูกมาก เตะบอลด้วยกัน วิ่งด้วยกัน ไปดูละครด้วยกัน และเดินทางด้วยกันบ่อย”

ปริญญ์ เล่าว่า คุณพ่อและคุณแม่ให้เขาบวชตั้งแต่อายุ 21 ปี ช่วงซัมเมอร์ สมัยเรียนอังกฤษและจำพรรษาที่วัดชลประทานฯ ของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

นิสัยที่รู้จักให้คนอื่นจึงติดตัวมาด้วย ที่บริษัทมีโครงการให้เงินช่วยเหลือโครงการเพื่อสังคม โดยบริจาคเงินสร้างอาคารเรียนให้เด็กที่พัทยาใต้ เรียกว่าChild Protection & Development Centre

ทุกวันนี้เขามีความสุุขกับชีวิตและงานที่ทำ ถ้าถามว่าใฝ่ฝันจะเป็นนักการเมืองตามรอยคุณพ่อหรือไม่ เขาเชื่อว่าถ้าจะช่วยสังคมไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง เพราะคนที่จะเป็นนักการเมืองได้ต้องมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์

ยามว่าง ปริญญ์ชอบวิ่งจ๊อกกิ้งที่สวนลุมพินี ดูหนัง โดยชอบหนังของผู้กำกับ เป็นเอกรัตนเรือง นนทรีย์ นิมิบุตร เปโดร อัลโมโดวาร์ผู้กำกับชื่อดังของสเปน ที่กำกับหนังชื่อดังเรื่อง Talk to her และ All about my motherที่เป็นหนังแนวดราม่า

ความสำเร็จของบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้นคงไม่ได้ประกอบด้วยโชคชะตาหรือปัจจัยใดเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสติปัญญาและสังคมแวดล้อมที่หล่อหลอมเขาขึ้นมาด้วย