อภินันต์ เศวตวรรณกุล ดีกับตัวเรา คือดีกับลูกค้า

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

จากจุดเริ่มต้นของ เชฟเอฟ-อภินันต์ เศวตวรรณกุล เชฟรุ่นใหม่หัวใจเกินร้อย ผู้ซึ่งชอบตระเวนกินอาหารตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา พอเรียนจบ ทำงานได้สักพัก ก็ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ และ ณ ที่แห่งนั้น ทำให้เขาได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นเชฟมาจนถึงทุกวันนี้

“ผมเริ่มต้นทำงานที่ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ในอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ เริ่มต้นจากล้างจาน พอล้างได้สักพักก็ได้เข้าไปทำงานครัว จากนั้นก็ออกไปหาประสบการณ์ที่ร้านอาหารไทยสไตล์เมืองนอก ผมได้เรียนรู้ทุกอย่างจากการทำงานที่นี่ อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ ซึ่งตอนนั้นผมคิดแค่ว่า คนอื่นทำได้ ทำไมผมจะทำไม่ได้ แล้วชีวิตก็ผ่านจุดนั้นมาได้ พอวีซ่าหมด ก็กลับมาไทย มาเรียนทำอาหารที่โรงแรมโอเรียนเต็ล เรียนอยู่ 1 ปี ก็ได้ฝึกงานที่ครัวร้อน ครัวเย็น ครัวหวาน แต่เป็นอาหารไทยทั้งหมด ซึ่งก็ได้เรียนรู้การทำอาหารเพิ่มขึ้นจากที่นี่”

หลังจากนั้น เชฟเอฟก็ได้มาทำงานที่ร้านน้ำ ทำได้ 1 ปี ก็ย้ายไปทำงานที่ร้านอาหารของตัน ภาสกรนที ทำอยู่ 2 ปี ก็ย้ายมาทำที่โรงแรมดับเบิ้ลยู

“ทำที่นี่ได้ไม่นาน คุณพล ตัณฑเสถียร ประกาศรับผู้ช่วย ผมสนใจอยากเรียนรู้การทำรายการอาหาร เลยได้ไปทำรายการกับคุณพล แล้วผมก็ได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องโภชนาการจากอาจารย์ที่มหิดล ซึ่งทางคุณพลเชิญมาสอน ประจวบกับผมรู้จักน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นโภชนากรประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการทำ Fit food always ซึ่งเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ผมจัดทำพร้อมจัดส่งถึงหน้าประตูบ้านของลูกค้าในทุกๆ เช้าครับ”

 

เชฟเอฟเผยว่า เมื่อผนวกเข้ากับแฟนของเขา (เบียร์-ปรียาภัสสร์ จันทะวาลย์) ผู้ซึ่งกำลังสนใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารลดความอ้วนอยู่ในขณะนั้นพอดี ทำให้เขาสนใจว่าอาหารการกินของแฟน ที่แฟนสั่งมากินนั้น มีอะไรๆ บ้าง ทำไมถึงมีราคาแพงมากนัก

“เมื่อผมรู้อย่างนี้เข้า ผมเลยทำอาหารเพื่อสุขภาพให้แฟนผมกินครับ ทำให้ทุกมื้อเลย พอทำให้กิน แฟนก็ถ่ายรูปลงอินสตาแกรม เพื่อนๆ ก็เริ่มสนใจ เริ่มถาม เราก็เลยทำให้เพื่อนกิน เพื่อนก็ชมว่าอร่อย เฮลท์ตี้ดี แถมยังช่วยถ่ายรูปลงอินสตาแกรมให้อีก ทีนี้เลยมีลูกค้าจริงๆ ติดต่อเราเข้ามา”

สำหรับเมนูอาหาร ไม่ว่าจะมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็น เชฟเอฟจะขอส่วนสูงและน้ำหนักของลูกค้า เพื่อจะได้จัดสรรปริมาณอาหารให้กับเหมาะกับตัวลูกค้าคนนั้นๆ “บางคนไม่ชอบหรือแพ้วัตถุดิบอะไร เราก็จะได้จัดสรรอาหารให้ถูกกับเขาไป การใส่ใจรายละเอียดของลูกค้า ถือเป็นสิ่งสำคัญ เทคนิคของผมคือพยายามคุยกับลูกค้าให้ถ้วนถี่ชัดเจน พูดกันตรงไปตรงมา ชอบไม่ชอบอะไร แพ้อะไร ซึ่งหลักการนี้ก็ยังนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน ผมเข้มงวดเรื่องการแพ้อาหารของคนมาก เพราะมันเป็นวิกฤตของคนที่แพ้จริงๆ

 

โดยเฉพาะในตอนนี้ ผมเริ่มทำอาหารเพื่อสุขภาพให้กับคนที่เป็นโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ซึ่งลูกค้าจะนำลิสต์ที่หมอห้าม หรือที่ต้องเพิ่ม มาให้เราดู บางที เราก็ให้ลูกค้าได้คุยกับนักโภชนากรที่ทำงานในโรงพยาบาล ซึ่งทำงานร่วมกับเรา เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเขาต้องกินอะไร ลดอะไร แต่บางครั้งเราก็ไม่รับทำให้ลูกค้าที่เคสยากเกินไป เพราะเรากลัวมีผลกระทบกับเขา แต่ใครที่เราทำแล้วให้ลองกิน แล้วเขามีอาการที่โอเค เราก็ทำให้เต็มที่ และตอนนี้ เราก็เริ่มทำอาหารให้กับคนที่เล่นฟิตเนสที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อครับ”

นับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่าสองปีแล้ว เชฟเอฟเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ที่เขาสามารถจัดส่งอาหารได้ไกลสุด ทางเหนือ คือ ม.รังสิต ทางใต้คือ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ทางด้านตะวันออกถึงวงเวียนพระราม 5 “เรียกได้ว่าแทบจะทั่วกรุงเทพฯ แล้ว ณ ตอนนี้ เราสามารถรับทำอาหารให้ลูกค้าได้ 80 ท่าน ในส่วนของราคา เราจะคิดราคาต่อสัปดาห์ และแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามจำนวนมื้ออาหารในแต่ละวัน หลักๆ แล้ว ลูกค้าจะสั่งทั้งเมนูเช้า กลางวัน เย็น บางท่านก็สั่งให้คนในครอบครัวกิน บางคนเขาเน้นอาหารเพื่อการสร้างกล้ามเนื้อ ก็จะมีมื้ออาหารที่เพิ่มมากขึ้น แต่เรื่องการกิน อยากบอกว่า มันต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และการพักผ่อนด้วย ถึงจะทำให้เราประสบความสำเร็จในเรื่องสุขภาพและน้ำหนัก”

เป้าหมายต่อไปของเชฟเอฟ เขามุ่งมั่นที่จะเปิดหน้าร้าน เป็นร้านอาหารที่จัดเซตอาหารที่เหมาะกับลูกค้า โดยให้ลูกค้าโทรศัพท์มาสำรองที่นั่ง บอกส่วนสูงและน้ำหนัก บอกสิ่งที่ต้องการ แพ้อะไร อยากกินอะไร เพื่อที่เชฟเอฟจะได้จัดอาหารที่เหมาะสมให้นั่นเอง สำหรับคนที่สนใจอาหารฝีมือเชฟเอฟ ติดต่อได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น www.fitfoodalways.com เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์  fitfoodalways หรือโทร. 08-6359-3795 เชฟเอฟจะเป็นคนรับสายเอง