ชิตณรงค์ วิเศษสมภาคย์ วิศวกรหนุ่มเจ้าเสน่ห์

โดย...ภาดนุ ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

หนุ่มหล่อบุคลิกดีวัย 28 เป็นวิศวกรของบริษัท สหพีร์ เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนติดตั้งระบบแอร์คอนดิชั่นตามอาคารหรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ นอกจากอาชีพวิศวกรที่ทำให้ดูเท่แล้ว รูปร่างหน้าตาที่ดูดีมีเสน่ห์ของ “ปั้น-ชิตณรงค์ วิเศษสมภาคย์” ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้หลายคนอยากรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น

“ผมจบทางด้านวิศวเครื่องกล จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ครับ จริงๆ แล้วตอนจบมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ผมเอนทรานซ์ติดที่จุฬาฯ แต่ว่าไม่ใช่คณะที่ชอบ ก็เลยไปสอบเข้าที่ ‘เอสไอไอที’ แต่กว่าจะเรียนจบมาได้ก็เสียเวลาไปถึงสองปี เพราะช่วงนั้นผมค่อนข้างเกเร พอเรียนวิศวะไปได้ 1 ปี ผมเกิดรู้สึกไม่ชอบขึ้นมาซะงั้น

 

"เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมชอบเล่นคอมพิวเตอร์ ชอบทำงานกราฟฟิก ทำรูป ตัดต่อวิดีโอ แต่ที่บ้านอยากให้เรียนวิศวะ ก็เลยลองเรียนดูแล้ว แต่พอเรียนไปได้ปีนึง ผมก็แอบไปลาออกเองเลย แล้วไปสมัครเรียนคณะนิเทศฯ ที่ ม.กรุงเทพ สุดท้ายสมัครไป แต่ยังไม่ทันได้เรียน ก็โดนครอบครัวกดดันซะก่อน เพราะผมเป็นลูกชายคนเดียวด้วย ผมก็เลยต้องมาเอนทรานซ์ใหม่โดยกลับมาเรียนที่ ‘เอสไอไอที’ เหมือนเดิม กระทั่งเรียนจบมาจนได้ครับ” (หัวเราะ)

ปั้นเล่าว่า พอเรียนจบมาปุ๊บก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานประจำ เพราะเป็นช่วงที่คุณพ่อของเขาต้องการวางมือจากบริษัท สหพีร์ฯ เพื่อไปทำในสิ่งที่ท่านชอบ นั่นคือการทำเกษตรแนวเศรษฐกิจพอเพียงและงานช่วยเหลือสังคม คุณพ่อจึงบอกให้เขารีบๆ มาช่วยทำงานซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวดีกว่า

“ผมเข้ามาช่วยคุณพ่อทำงาน โดยเริ่มตั้งแต่เป็นช่าง เป็นคนส่งของ จนถึงเป็นเซลส์ขายอุปกรณ์เลยล่ะ ก็ทำมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมเข้ามาดูในเรื่องโปรดักต์ของบริษัท ซึ่งมีตั้งแต่ปั๊มน้ำ วาล์ว คอนโทรลวาล์ว บาลานซิ่งวาล์ว ฯลฯ เป็นโปรดักต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศแล้วนำมาประกอบเอง ซึ่งจำเป็นต่อระบบติดตั้งแอร์คอนดิชั่นขนาดใหญ่ทั้งสิ้น เนื่องจากบริษัทของเรารับติดตั้งและวางระบบปรับอากาศตามอาคารและห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่างห้างเซ็นทรัลฯ ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของเรา เรียกว่าผมได้ใช้วิชาที่เรียนมา (ที่ตอนแรกจะไม่เรียน) ได้เป็นอย่างดีในการทำงาน เพราะคนที่เรียนวิศวเครื่องกลส่วนใหญ่จะมีเซนส์รู้ได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้มันทำงานอย่างไร ความรู้ที่เรียนมาจึงช่วยให้ผมทำงานได้ง่ายขึ้นครับ” (ยิ้ม)

ชายหนุ่มเสริมว่า เวลาลูกค้าสั่งของ เขาก็มักจะไปส่งเองโดยไปดีลกับลูกค้า ถ้ามีโปรเจกต์เข้ามาก็จะไปคุยสเปกกับลูกค้าว่าต้องการแบบไหนอย่างไร และต้องไปช่วยดูว่าสามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้ไหม มีพื้นที่ในการติดตั้งระบบแอร์ยังไงบ้าง เป็นต้น พูดง่ายๆ ว่าบริษัทของเขาเป็นซัพพลายเออร์ในการส่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับผู้รับเหมา และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการติดตั้งระบบแอร์ของอาคารและห้างต่างๆ ซะมากกว่า คนทั่วไปจึงอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อของบริษัท สหพีร์ฯ สักเท่าไหร่

“การทำงานในบริษัทสำหรับผมแล้วแทบจะไม่ค่อยมีอุปสรรคเลย เพราะพนักงานในบริษัทเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะช่วยเหลือกัน พนักงานบางคนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก เพราะบริษัทเปิดมาได้ 30 ปีแล้ว บางคนก็อยู่กับเรามาถึง 20 ปี ทำให้คุยกันง่าย ทำงานกันง่าย เข้าใจกันง่าย มีอะไรก็สามารถพูดกันตรงๆ ได้

"หากจะมีปัญหาบ้างก็จะเป็นในส่วนของหน้างานซะมากกว่า เช่น สินค้าที่ส่งไปแล้วประกอบผิดบ้าง สเปกของสินค้าที่สั่งไว้ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าบ้าง หรือการส่งของมีความล่าช้าบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยกับลูกค้าตรงๆ ด้วยเหตุด้วยผล ลูกค้าจึงยังคงเชื่อถือและให้ความไว้วางใจบริษัทเป็นอย่างดี”

 

ดูแล้ววิศวกรหนุ่มจะงานรัดตัวไม่เบา แล้วอย่างนี้เขามีวิธีผ่อนคลายยังไงบ้างนะ “หลังเลิกงานผมชอบไปงานปาร์ตี้ ชอบสังสรรค์ ชอบออกไปพบเจอผู้คน ส่วนใหญ่จะไปกับลูกค้านี่แหละครับ ผมว่ามันก็สนุกดีนะ บางทีเราทำงานเครียดๆ จะได้ไปปลดปล่อยบ้าง เพื่อนบางคนถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ ทำงานตั้งแต่เช้าถึงห้าโมงเย็น บางวันต้องออกไปนั่งคุมช่าง นั่งอยู่บนตึกแดดร้อนๆ พอตกเย็นยังออกไปสังสรรค์ แถมกลับบ้านเที่ยงคืนตีหนึ่งบ่อยๆ ผมเลยบอกว่า ถ้าร่างกายเรายังไหว บางทีการได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือรู้จักคนใหม่ๆ บ้าง ก็ช่วยให้เราคลายเครียดได้เหมือนกันนะ”

ปั้นบอกว่า งานอดิเรกยามว่างของเขาคือการเลี้ยงสัตว์ เขาเลี้ยงทั้งสุนัข แมว ปลา และเต่า จนเป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนเลยว่าเขาสามารถเข้ากับสัตว์ได้แทบทุกชนิด สุนัขบ้านใครที่ว่าดุ พอเจอปั้นเป็นต้องยอมอ่อนข้อให้ทุกที ส่วนกีฬานั้นเขาจะเข้าฟิตเนสสัปดาห์ละ 2-4 ครั้ง เป็นประจำหลังเลิกงาน ทั้งเล่นเวตและปั่นจักรยาน แต่ช่วงนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุด ก็คือ การไปดำน้ำที่ภูเก็ต เพราะล่าสุดปั้นเพิ่งสอบผ่านการเรียนดำน้ำระดับความลึก 20-30 เมตร มาหมาดๆ

แหม! ช่างเป็นหนุ่มที่มีไลฟ์สไตล์เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ดูแล้วมีเสน่ห์ในสายตาสาวๆ แล้วเจ้าตัวล่ะ มองว่าเสน่ห์ของตัวเองอยู่ตรงไหน

 

“ผมว่าเสน่ห์ของผมอยู่ตรงที่เข้ากับคนง่าย เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส คุยเก่ง เมื่อก่อนผมจะกลัวคน แต่พอเริ่มมาทำงานด้านเซลส์ควบคู่ไปด้วย เริ่มได้เจอผู้คนเยอะขึ้น ผมจึงเข้ากับคนได้ง่าย เข้ากับผู้ใหญ่ได้ง่าย อีกอย่างผมเป็นคนยิ้มง่าย บางครั้งก็ตลกเฮฮาครับ ปัจจุบันนี้ผมอายุ 28 แล้ว เรื่องแต่งงานผมเคยคิดไว้ว่าอายุสัก 30 นิดๆ ก็คงจะแต่ง อยากมีลูกเร็วๆ เหมือนกัน ลูกจะได้โตทันใช้ ผมเห็นพี่สาวที่เป็นญาติกันเขามีลูก ผมก็อยากมีบ้างนะ แต่ว่าตอนนี้แฟนยังไม่มีเลย ยังไม่เจอคนที่ใช่จริงๆ ครับ” (ยิ้ม)

เปิดประเด็นมาซะขนาดนี้ เลยถามถึงสาวในสเปกซะเลย “ผมเป็นคนไม่มีสเปกนะ คือถ้าเจอแล้วรู้สึกใช่ ก็จะใช่เลย ที่ผมเคยมีแฟนมาก็ไม่ได้ตั้งสเปกไว้เลยครับ คือมองแล้วคนนี้น่ารัก รู้สึกชอบ ก็จะชอบเลย ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงที่ความสวยเป็นอันดับแรก ผู้หญิงที่สวยของผมคือผู้หญิงที่มีความสุขกับตัวเอง มีความสุขกับการใช้ชีวิต ผมชอบคนง่ายๆ ไปไหนก็ง่ายๆ เป็นคนยิ้มง่าย เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพราะผมค่อนข้างเป็นคนติดเพื่อนด้วย เวลาออกไปไหนก็จะพาคนที่เราคบไปด้วยตลอด ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วอึดอัด รู้สึกไม่สบายใจ อย่างนี้มันก็ไม่ใช่แล้วละครับ”

ปั้นทิ้งท้ายว่า เขาชอบผู้หญิงที่นิสัยลุยๆ ยิ่งเป็นแนวสปอตเกิร์ลนี่ยิ่งชอบมาก เพราะเขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา ซึ่งกีฬาจะทำให้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ได้เห็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้สนิทสนมกันมากขึ้นตามไปด้วย เอ้า! สาวสปอร์ตเกิร์ลทั้งหลาย ทราบแล้วเปลี่ยนจร้า!