posttoday

ธงไชย แมคอินไตย์ ยังเป็น ‘พี่เบิร์ด’ ของทุกคน

16 สิงหาคม 2557

ถ้าถามผมว่า ใครคือบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง ทั้งทางด้านการร้อง การเล่น และการเต้น แน่นอนว่า ชื่อของ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์”

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ถ้าถามผมว่า ใครคือบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง ทั้งทางด้านการร้อง การเล่น และการเต้น แน่นอนว่า ชื่อของ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ย่อมมาเป็นอันดับต้นๆ ในวันที่อายุกำลังเดินทางเข้าสู่ 56 ปี และอายุในวงการบันเทิง 31 ปี ชายหนุ่มคนนี้ย่อมผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านอะไรต่างๆ มามากมาย วันนี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา (ผมขออนุญาตเรียกเขาว่าพี่เบิร์ด) แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่พี่เบิร์ดทำ สิ่งที่พี่เบิร์ดเป็น และสิ่งที่พี่เบิร์ดกำลังจะก้าวเดินไปต่อ...อย่างไม่หยุดยั้ง

“เส้นทางเดินของพี่จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ บอกได้เลยว่ามันเป็นเส้นทางที่ทำให้พี่มีความสุขมาก มีคนถามว่าพี่เอาพลังมาจากไหนถึงได้เต็มที่กับงานทุกชิ้น พี่เบิร์ดเชื่อว่าพลังที่มาจากตัวพี่ มันมาจากการที่พี่ได้ทำงาน เวลาที่พี่ไม่ได้ทำงาน พลังที่อยู่ในตัวพี่คงอึดอัด คงร้อนรุ่ม คงอยากออกมาตะโกนดังๆ ว่าตรูพร้อมแล้วโว้ย คิดดูสิว่าตั้งแต่ต้นปีพี่เบิร์ดไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตเลย พลังงานในตัวพี่คงรู้สึกว่าวันๆ ก็ได้แต่นั่งดูทีวี ดูข่าวการเมืองไปอะไรไป พอได้มาเล่นละคร ได้มาเตรียมงานคอนเสิร์ต เตรียมงานเพลง มันค่อยยังชั่วหน่อยที่ได้ปลดปล่อยพลังออกมา ได้เปล่งเสียง ได้สร้างชีวิตให้กับตัวเองและแฟนๆ ของพี่เบิร์ด”

ผมตั้งคำถามถามพี่เบิร์ดไปว่า ถ้าเด็กยุคดิจิทัลมักทำอะไรแล้วเบื่อหน่ายเร็ว ท้อแท้ง่าย ไม่มีพลังในการทำงานเหมือนคนรุ่นก่อน พี่เบิร์ดจะบอกหรือแนะนำอะไรกับเด็กรุ่นนี้บ้าง พี่เบิร์ดตอบอย่างจริงใจว่า ถ้าคิดจะท้อแท้โดยไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ หรือเติมพลังให้ตัวเองทุกวัน ก็ให้เลิกทำงานไปซะ

“แสดงว่าน้องเป็นภูมิแพ้เรื่องงานแล้วล่ะ ถ้าเรารักงานจริง เหนื่อยแค่ไหน เราก็เอนจอยกับงานได้ ยังยิ้มได้ เหนื่อยแค่ไหน เดี๋ยวทำงานเสร็จ งานออกมาดี มันก็หายเหนื่อย แต่ถ้าทำงานแล้วงุงิอิ๊อ๊ะไม่อยากทำ หรือขี้เกียจทำงาน ง่วงเหงาหาวนอนบ่อยๆ ก็ให้นอนอยู่บ้านเถอะ อย่างตอนที่พี่ทำงานอยู่ในห้องอัด คนคุมห้องอัดมักแซวพี่ว่าพี่เบิร์ดไม่ฉี่ไม่ขี้บ้างเหรอ หรือไปซ้อมเต้น ถึงเวลาพักกินข้าว ทีมงานไม่กล้าเดินมาบอก เพราะเห็นพี่ยังสนุกกับการซ้อมเต้นอยู่ พี่จึงอยากบอกว่า เราเลือกทำงานไหนแล้ว จงทำงานนั้นให้ดีที่สุด”

ใครหลายคนคงมีคำถามหนึ่งซึ่งไม่ต่างจากผม นั่นคือ พี่เบิร์ดเคยเห็นภาพตัวเองเดินลงบันไดแห่งความเป็นซูเปอร์สตาร์ เพื่อเดินลงมาใช้ชีวิตแบบเรียบๆ ง่ายๆ หรือใช้เวลาในบั้นปลายชีวิตเพื่อพักผ่อนอย่างมีความสุขบ้างไหม เมื่อผมถามคำถามนี้ไป พี่เบิร์ดตอบผมว่า จริงๆ แล้วพี่เบิร์ดก็ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ มาโดยตลอดไม่ได้ใช้ชีวิตยุ่งยากอะไร

“ใครๆ คงคิดว่าความเป็นซูเปอร์สตาร์ของพี่คงจะอยู่แบบยากๆ พี่เบิร์ดใช้ชีวิตง่ายกว่ากรรมกรเสียอีก กินข้าวก็กินข้าวไข่เจียว แล้วก็ทำแต่งาน แต่ก็มีอยู่หนึ่งอย่างที่อาจดูเหมือนว่าเวอร์เกินไป นั่นคือการที่พี่ไม่ค่อยชอบออกไปไหน ชอบแต่อยู่ในบ้าน พี่คิดว่าเวลาที่พี่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากไป แต่เราขี้เกียจไป ไปแล้วแล้วไง ไปซื้อของมาแล้วเอามากองๆ ไว้ แล้วไงอะ อยู่บ้านดีกว่า อยู่แล้วเราใส่กางเกงขาสั้น กินข้าว นั่งดูทีวี หรือสวดมนต์ หรือออกกำลังกายให้ได้ทุกส่วนของร่างกาย ว่ายน้ำบ้าง ทำนั่นโน่นนี่ในบ้านบ้าง ถึงทุกวันนี้จะมีห้างใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเยอะแยะ พี่ก็ไม่ไป พี่เป็นคนไม่ชอบเดินห้าง เห็นของเยอะๆ แล้วพี่งง เคยจะไปซื้อของในห้าง แต่เห็นของเต็มแผง เห็นแล้วตกใจ ไม่ซื้อดีกว่า กลับบ้านดีกว่า หาอะไรทำในบ้านดีกว่า”

พี่เบิร์ดบอกเล่าให้ผมฟังว่า นอกจากเขาจะชอบอยู่บ้านแล้ว เขายังชอบอยู่บ้านอีกหนึ่งหลัง ซึ่งเขาถือว่าเป็นบ้านหลังที่สอง แถมยังเป็นบ้านหลังใหญ่อีกด้วย นั่นคือบ้านในวงการบันเทิง ที่พี่เบิร์ดยังคงอาศัยอยู่ “พี่ยังคงทำหน้าที่ที่พี่ต้องทำ ยังให้ความเคารพรุ่นพี่ ให้เกียรติและคอยช่วยเหลือรุ่นน้อง ใครจะเข้ามาอยู่ใหม่ พี่ก็ยินดีต้อนรับ ถึงแม้ว่าในบ้านหลังนี้ พี่จะมีเหนื่อยมีท้อแท้บ้าง แต่พี่ก็ไม่ปล่อยให้มันเกินสองหรือสามชั่วโมง เวลาเหนื่อยหรือท้อแท้ พี่ก็จะไปทำอะไรให้สนุกสนานซะ อย่างคอนเสิร์ตขนนกกับดอกไม้ที่ถูกเลื่อนเพราะเหตุบ้านการเมือง พี่ก็เครียดนะ แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ เอาเป็นว่าปล่อยมันไป เราหันมาเฟ้นหาวันเวลาที่พร้อมจะมาสนุกกันแบบลงตัวกันดีกว่า คิดแค่นี้ พี่เบิร์ดก็ยิ้มได้แล้ว”

พี่เบิร์ดเผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตให้ผมฟังว่า พี่เบิร์ดเป็นคนที่ไม่ยอมเอาสิ่งไม่ดีเข้าตัว ไม่ยอมเอาความคิดที่ไม่ดีเข้ามาในหัว “ถ้ามันเข้ามานิดนึง พี่ต้องพยายามเอาออก พยายามสะกดสกัดความโกรธเกลียดออกไป ไม่ว่าอะไรก็พยายามอโหสิกรรม พยายามจัดการอารมณ์ภายในให้ได้ ถ้าเราจัดการไม่ได้ ชีวิตไม่โล่ง ไม่โปร่งจริง เวลาที่เราออกไปทำอะไร คนอื่นจับโกหกเราได้แน่นอน ซึ่งเราต้องเคลียร์อารมณ์โกรธให้หมดก่อน ใครจะว่ายังไง ก็ไม่เป็นไร ใครจะว่าพี่อายุใกล้จะ 60 แล้ว ยังจะเล่นละครได้ดีเหมือนเดิมมั้ย พี่แก่เกินจะเล่นเป็นพระเอกหรือเปล่า ยังจะเล่นคอนเสิร์ตให้สนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า ก็ปล่อยคนว่าไป พี่ว่าพี่ได้แค่นี้ก็เก่งแล้วนะ (หัวเราะ)”

ธงไชย แมคอินไตย์ ยังเป็น ‘พี่เบิร์ด’ ของทุกคน

 

เมื่อเพ่งมองดูใบหน้าของพี่เบิร์ดแบบใกล้ๆ รวมทั้งตลอดระยะเวลาที่ได้สนทนากับพี่ชายคนนี้ ผมรู้สึกได้อยู่ตลอดเวลาว่า นอกจากการเป็นคนรู้จักจัดการอารมณ์ขุ่นมัวในใจ พี่เบิร์ดคงดูแลร่างกายตัวเองเป็นพิเศษเป็นแน่ รวมทั้งดูแลเรื่องอาหารการกิน ซึ่งพี่เบิร์ดก็บอกผมอย่างติดตลกว่า ทุกวันนี้พี่เบิร์ดกินแหลกเลยเชียวล่ะ “เมื่อก่อนพี่ไม่ชอบกินทุเรียน เพราะคิดว่าเป็นขี้ แต่พอพี่ได้เห็นทุเรียนพันธุ์หนึ่ง ลูกมันสวยมาก สีสันสวยงาม มองซ้ายมองขวา แล้วลองหยิบเข้าปาก ปรากฏว่ามันอร่อยมาก ทีนี้ล่ะ พี่เลยขอคุณหมอที่ดูแลพี่เบิร์ดว่าขอกินนะ คราวนี้แกซื้อมาให้กินเลยจ้า ทุเรียนกับพี่เลยเป็นอะไรที่ไปกันได้ (หัวเราะ) กินใหญ่เลยนับตั้งแต่วันนั้น”

นอกจากนี้ พี่เบิร์ดยังหมั่นไหว้พระสวดมนต์ ซึ่งพี่เบิร์ดเผยกับผมว่า การไหว้พระสวดมนต์ถือเป็นเพื่อนที่ดีในเวลาที่เราไม่มีใคร “พี่จะสวดมนต์แบบออกเสียง เพราะถือเป็นการออกกำลังกายเสียงไปในตัวด้วย ส่วนหลักธรรมที่พี่น้อมนำมาใช้ พี่ประทับใจหลักธรรมคำสอนของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง พี่มักหยิบหนังสือของท่านมาอ่าน อ่านแล้วอ่านอีก ท่านบอกว่า ให้ยิ้มน้อยๆ ในใจเข้าไว้ ไม่โกรธใคร แถมยังได้ชี้ชวนให้เราเพ่งดูใบหน้าของพระพุทธรูปทุกองค์ ท่านยังยิ้มน้อยๆ ทุกรูป เพราะฉะนั้น ทำดี คิดดี ก็ต้องได้ดี เจออะไรก็ต้องยิ้มน้อยๆ ในใจ และอีกอย่างหนึ่งคือ วันใดที่เรายังมีกันอยู่ก็ขอให้คิดดีทำดีต่อกัน วันใดเราเสียกันไป เราจะได้ไม่รู้สึกเสียดายและเสียใจ ที่ไม่ได้ทำดีต่อกัน อย่าลืมว่าไม่มีอะไรทดแทนอะไรได้ ธรรมชาติเขาไม่ยอมอยู่แล้ว ฟังแล้วดูเศร้าเนอะ แต่มันคือเรื่องจริง”

เมื่อพูดถึงผลงานล่าสุด คอนเสิร์ตขนนกกับดอกไม้ The Original Returns 2014 ที่เลื่อนการแสดงมาแล้วสองครั้ง (แว่วมาว่าจะทำการแสดงในช่วงเดือน ก.พ. 2558) ผมเลยขอให้พี่เบิร์ดได้ช่วยพาผมนั่งไทม์แมชีนย้อนไปยังวันนั้น ปี 2538 วันที่อัลบั้มขนนกกับดอกไม้ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมา

“อัลบั้มขนนกกับดอกไม้ถือเป็นอัลบั้มแรกของประเทศไทยที่มีนักร้องมาฟีเจอริ่งกัน แถมยังร้องเพลงที่ไม่ใช่เพลงของเรา นักร้องที่มาร้องเพลงแต่ละคน ก็ใหม่เอี่ยมอ่องกันหมดเลย อย่างมาช่าก็เพิ่งจะออกอัลบั้มไม่กี่ชุด ใหม่ก็เต็มเหนี่ยวมากในช่วงนั้น ติ๊นาก็แดนซ์สะบัดมาก แอมก็ดอกไม้เหล็กแข็งแกร่ง ศรัณย่าก็เสียงใสกิ๊ง ทุกคนมีความสดใหม่ และถูกเรียนมาจากโรงเรียนพี่เต๋อ เรวัติ เพราะฉะนั้นเทคนิคการร้องจึงมีความเป็นแบบฉบับของตัวเองซึ่งใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ เอาเป็นว่าแต่ละคนที่คัดเลือกมา สวย เด่น เก๋ ร้องเพลงดีกันหมด แถมล่อตาล่อใจคนฟังได้เป็นอย่างดี (หัวเราะ) พอมาเป็นคอนเสิร์ต ทำให้เห็นว่าคนดูรักเราจริงๆ ขนาดอินดอร์สเตเดียมหัวหมากในวันนั้นไม่มีแอร์ คนดูข้างล่างเบียดเสียดกันแน่น บนเวทีก็ร้อนพลั่ก แต่ทุกคนต่างเต็มที่ แอร์ไม่มีไม่สนใจ”

สำหรับการหวนกลับมาเล่นละครอีกครั้งในรอบหลายๆ ปี พี่เบิร์ดได้รับบทเป็นท่านชายโฮชิ เทพเจ้านกกระเรียนที่อยู่ในร่างมนุษย์ ในละครเรื่องกลกิโมโน พี่เบิร์ดเผยว่าตอนนี้ถ่ายทำไปได้เยอะมาก “พี่รู้สึกสนุกไปกับการปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับบทบาทโดยที่ไม่เป็นตัวเราเอง ไม่คิดแทนตัวละคร ตัวละครเป็นคนคิดเป็นคนทำ มันมหัศจรรย์มากนะ ที่ตัวละครมาจุติอยู่ในตัวเรา โดยที่ทำให้เราไม่คิดว่าเราเป็นเบิร์ด ธงไชย เราก็เล่นไปตามที่ตัวละครคิด โชคดีที่พี่มีทีมงานที่ดี มีผู้จัดที่ดี มีผู้กำกับที่ละเอียดมาก มีแอ็กติ้งโค้ชที่ช่วยเราอย่างเต็มที่”

พี่เบิร์ดเผยทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีว่า การที่ได้กลับมาเล่นละครในครั้งนี้ ถึงกับต้องเคาะสนิมกันขนานใหญ่เลยเชียวล่ะ “แต่เชื่อมือพี่เถอะ ยังไงพี่ก็คิดว่าการกลับมาเล่นละครครั้งนี้เหมือนคนที่ขี่จักรยานเป็นแล้ว พอกลับมาขี่ใหม่ มันก็ยังขี่ได้อยู่ แต่พี่ก็เป็นโรคจิตที่คิดว่าการแสดงครั้งนี้ของเรามันจะเพียงพอกับการตั้งตารอดูของคนดูมั้ย คนดูจะชอบหรือเปล่า เราหายไปนาน กลับมาแสดงมันจะโดนใจคนดูเหมือนเดิมมั้ย พี่แคร์คนดูนะ คนดูติดตามเราตลอด ไปทำงานที่ไหน ดึกแสนดึกเพียงใด เขาก็ตั้งตารอเรา อยู่เป็นกำลังใจให้เรา เราเลยกลับมาเล่นละครแบบเต็มที่เพื่อเป็นของขวัญให้เขา เพลงประกอบละครก็มีนะ ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนงานเพลงในอัลบั้มชุดใหม่นี่ก็ทำกันอย่างละเอียดเลยนะ โดยคุณนายเล็ก บุษบา ควบคุมการทำงานแบบละเอียดมาก แกคอยคัดกรองทีมทำเพลงว่าทำเพลงออกมาแล้วเป็นยังไง น่าสนใจมั้ย ดนตรีเป็นอย่างไร เนื้อเพลงน่าสนใจหรือเปล่า เหมาะสมกับเรามั้ย ทันสมัยมากแค่ไหน ทีมงานส่งมาให้ฟังก็เยอะ คัดทิ้งไปก็เยอะ เอาเป็นว่าพี่เต็มที่เพื่ออัลบั้มชุดใหม่อย่างแน่นอนครับ”