posttoday

รัตนวรรณ ลาภชีวะสิทธิ์ เลือกทำในสิ่งที่ชอบและถนัด

14 กรกฎาคม 2557

สาวสวยคมเข้ม มีรอยยิ้มแย้มเป็นมิตรอยู่เสมอ เธอเป็นสาววัย 33 ปี ยุ้ยรัตนวรรณ ลาภชีวะสิทธิ์ เจ้าของร้านอาหารเกาหลีซารัง ที่แปลว่า ความรัก

โดย...อนุสรา ทองอุไร ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพาณิช

สาวสวยคมเข้ม มีรอยยิ้มแย้มเป็นมิตรอยู่เสมอ เธอเป็นสาววัย 33 ปี ยุ้ย-รัตนวรรณ ลาภชีวะสิทธิ์ เจ้าของร้านอาหารเกาหลีซารัง ที่แปลว่า ความรัก เพราะร้านนี้เป็นผลพวงแห่งความรักของเธอและสามีชาวเกาหลี เขาว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวเพราะเธอเกิดมาในครอบครัวคนจีนที่ชอบทำธุรกิจ แถมยังเป็นหลานสาวเจ้เล้ง ดอนเมืองอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล อีกด้วย

การศึกษา

ด้านการศึกษานั้นเธอจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานที่บริษัท ซีพี มา 2 ปีกว่า ก็ออกมาช่วยทำธุรกิจของครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับการนำเข้ากระดาษอยู่เกือบ 3 ปี แล้วไปทำงานด้านร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกาอยู่เกือบปี จึงกลับไปเรียนภาษาต่อที่ประเทศจีนอยู่ 1 ปีกว่า เธอก็ได้ไปพบรักกับหนุ่มเกาหลีที่มาเรียนภาษาจีนเช่นเดียวกับเธอ และกลับมาแต่งงานกันที่ประเทศไทย

ด้วยความที่บ้านของฝ่ายชายที่ประเทศเกาหลีนั้น เคยทำธุรกิจร้านอาหารเกาหลีมาก่อน เธอก็อยากทำธุรกิจของตัวเองควบคู่กับการเป็นแม่บ้าน จึงชักชวนสามีมาเปิดร้านอาหารเกาหลีสไตล์ปิ้งย่างที่ประเทศไทยเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยสาขาแรกเปิดแถวพญาไทซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงเปิดสาขา 2 ที่โครงการเดอะศาลายามอลล์ แถวมหาวิทยาลัยมหิดล และมีโครงการจะเปิดสาขา 3 ประมาณต้นปีหน้า

เธอเล่าว่า เพิ่งค้นตนเองว่าชอบทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร ตอนไปทำงานที่สหรัฐอเมริการู้สึกสนุก ไม่ชอบทำงานออฟฟิศ ที่บ้านเองก็สนับสนุนให้ทำธุรกิจของตัวเองมากกว่า

“ก็เลยคิดว่าร้านอาหารน่าจะเหมาะ เราชอบธุรกิจบริการ เงินทุนระยะแรกไม่มากเกินตัว เริ่มทำอะไรที่พอเหมาะพอสมกับตัวเอง ค่อยๆ ต่อยอดไปเรื่อยเมื่อมีเงินและประสบการณ์ที่มากพอ”

ธุรกิจร้านอาหารยังพอไปได้ดี

เธอมองว่า ธุรกิจร้านอาหารมีอนาคตที่สดใส เพราะอยู่ในธุรกิจที่ถือว่าเป็นปัจจัย 4 เศรษฐกิจจะขึ้นหรือลงอย่างไรคนก็ยังต้องกินอยู่ดี แล้วเธอทำร้านระดับกลางๆ ไม่ได้แพงเกินไป คนทำงานทั่วไป นักเรียนนักศึกษาเข้ามารับประทานกันได้ เพราะระดับราคาขนาดนี้เป็นราคาที่คนส่วนใหญ่รับได้ แม้จะเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แต่ถ้าทำด้วยใจรักทุ่มเท คุณภาพ และราคาเหมาะสมกับตลาดก็ยังพอไปได้ แต่ก็ต้องรักษาคุณภาพและรสชาติให้ดีอยู่เสมอ

“สูตรส่วนใหญ่ได้มาจากคุณแม่สามี ซึ่งเป็นคนคิดค้นสูตรให้ ท่านทำใช้เองสมัยที่ท่านเปิดร้านอาหารที่เกาหลี แต่เมื่อมาใช้ที่นี่เราก็พยายามปรับสูตรบ้างเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับลิ้นคนไทยให้มากขึ้น เราก็ช่วยกันเทสต์ ให้ญาติๆ เพื่อนๆ ช่วยกันชิม ทดลองกันเยอะๆ เพื่อให้ออกมาลงตัวที่สุดสำหรับลิ้นคนไทย” เธอกล่าวอย่างตั้งใจ

รัตนวรรณ ลาภชีวะสิทธิ์ เลือกทำในสิ่งที่ชอบและถนัด

 

เตรียมเปิดร้านใหม่ในต่างประเทศ

อย่างที่บอก เธอชอบและมีความมุ่งมั่นในการจะทำธุรกิจร้านอาหาร ดังนั้นเป้าหมายต่างๆ จึงมีความชัดเจน โดยภายในปีนี้อาจจะเปิดสาขาในประเทศไทยเพิ่มอีก 1 สาขา นอกจากนี้ประมาณปลายปีเธอมีโครงการจะไปเปิดร้านอาหารเกาหลีสไตล์อาหารชุดที่ประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากพี่สาวสามีอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก็เลยอยากไปทำธุรกิจที่นั่น โดยจะเปิดแบรนด์ใหม่ ประเภทร้านสุกี้ ร้านชาบู เพราะไม่ถนัดอาหารไทย

“คือถ้าจะทำธุรกิจอะไรก็เลือกในแบบที่ชอบ เราถนัดเงินลงทุนพอประมาณ ใช้เงินเราเองไม่ต้องไปกู้ธนาคาร มันสบายใจทำแบบค่อยเป็นค่อยไป จะเสี่ยงหรือพลาด ก็เป็นเงินเราไม่ต้องกังวลเรื่องเสียดอกเบี้ย จะได้เป็นการทำงานที่ไม่ต้องกดดันมาก”

หลักการบริหารงาน

เรียนรู้อยู่เสมอ โลกหมุนเร็ว เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาทุกวัน เราต้องตามโลกให้ทัน ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาสมดุลในชีวิตเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แบ่งเวลาให้เหมาะสม บริหารงานแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา อะไรที่ไม่ชอบอย่าทำกับลูกน้อง พยายามดูแลเขาเหมือนคนในครอบครัว เขาจะได้อยู่กับเรานานๆ การทำงานมีลูกน้องเข้าออกบ่อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดี การงานจะไม่ต่อเนื่อง

แม่แบบในการทำงาน

แน่นอนว่าก็คือคุณอาของเธอก็คือ เจ๊เล้ง ดอนเมือง นั่นเอง เพราะเธอเป็นผู้หญิงเก่งที่ขยันทำงานมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง สร้างโอกาสให้ตัวเอง มีการต่อยอดพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอายุ 60 กว่าแล้วแต่ก็ยังทำงานอย่างคนมีไฟ ไม่แพ้คนหนุ่มสาวๆ เลย เธอเป็นแบบอย่างของคนสู้ชีวิตที่สร้างเนื้อสร้างตัวจากไม่มีอะไรจนร่ำรวยได้ด้วยขาของตัวเอง

เมื่อเจอปัญหาอุปสรรค

พยายามหยุดมองและตั้งสติทบทวนในสิ่งที่ทำอยู่ว่าอะไรคือสิ่งผิดพลาด แล้วแก้ไข พยายามมองโลกในแง่ดี ยิ้มกับตัวเองให้ได้ พยายามเดินสายกลางว่าความสำเร็จกับผิดพลาดมันเป็นของคู่กัน อยู่ที่ว่าเราจะเจออะไรก่อน มองโลกด้วยความเป็นจริงแล้วเอาศาสนามาช่วยบ่มเพาะอารมณ์ความรู้สึก

ฝันอยากทำธุรกิจจิวเวลรี

เธอว่าอนาคตหากมีโอกาสอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวกับจิวเวลรี จับกลุ่มตลาดคนชั้นกลางชิ้นละ 1 หมื่นกว่าบาท แบบว่าคนทำงานใส่เล่นในชีวิตประจำวันใส่ไปทำงานได้ ถึงอย่างไรผู้หญิงกับเครื่องประดับก็เป็นของคู่กัน คิดว่าน่าจะไม่เกิน 2 ปีนี้น่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว

รัตนวรรณ ลาภชีวะสิทธิ์ อายุ 33 ปี

การศึกษาคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เจ้าของร้านอาหารเกาหลีซารัง 2 สาขา ที่พญาไทและเดอะศาลายามอลล์

เตรียมเปิดร้านอาหารที่ประเทศฟิลิปปินส์

ฝันอยากทำธุรกิจจิวเวลรีเป็นของตัวเอง