posttoday

AKARA โลชั่นนกกระจอกเทศ

09 มีนาคม 2561

นกกระจอกเทศนั้นเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงและทำกันเป็นฟาร์มอยู่ในไทยหลายแห่ง

ไชยวัฒน์ สาดแย้ม

นกกระจอกเทศนั้นเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงและทำกันเป็นฟาร์มอยู่ในไทยหลายแห่ง มีการแปรรูปออกมาเป็นเนื้อนกกระจอกเทศ จำหน่ายกันในราคาที่สูงมากถึงกิโลกรัมละ 700-1,000 บาท นอกจากเนื้อแล้ว เปลือกไข่ของนกกระจอกเทศยังเอามาทำงานศิลปะและหัตถกรรมต่างๆ ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ

ธนัทพร หมีปาน เจ้าของผลิตภัณฑ์ โลชั่นจากน้ำมันนกกระจอกเทศ แบรนด์ “AKARA” อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำผลิตภัณฑ์จากน้ำมันนกกระจอกเทศนั้นเกิดขึ้นมาจากการที่เดิมทีทางครอบครัวของตนเองนั้นทำฟาร์มนกกระจอกเทศอยู่แล้ว และมีการแปรรูปเนื้อนกกระจอกเทศ โดยมีการนำเอาเนื้อนกกระจอกเทศส่งขายตามร้านอาหารต่างๆ แต่มีส่วนที่เหลืออยู่คือไขมันของนกกระจอกเทศ จึงพยายามศึกษาหาข้อมูลของไขมันนกกระจอกเทศว่ามีคุณสมบัติอย่างไร จึงพบว่า ไขมันนกกระจอกเทศนั้นมีโอเมก้า 3 6 9 อยู่เป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันยังมีโมเลกุลที่เล็กมากๆ จึงทำให้สามารถซึมลงสู่ใต้ผิวหนังของคนเราได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่สามารถปรับสภาพผิวลดริ้วรอย ลดปัญหาในเรื่องของ โรคข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ เคล็ดขัดยอก ปวดข้อ อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการ ชะลอวัยและต่อต้านอนุมูลอิสระ รักษาแผลไฟไหม้ ผมแห้ง รอยแผลเป็นต่างๆ ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันนกกระจอกเทศดังกล่าวจึงมีแนวคิดที่จะนำมาทำเป็นผลิตภันฑ์น้ำมันนวดสปา ที่ทำมาจากไขมันนกกระจอกเทศ เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้า และในเวลาต่อมาจึงได้มีการพัฒนาให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นน้ำมันนกกระจอกเทศ และในรูปแบบของ สบู่ ต่างๆ

ธนัทพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องการตลาดได้นำไปจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อป โดยการนำออกบูธขายสินค้าตามงานแสดงสินค้า โอท็อปต่างๆ โดยเฉพาะที่เมืองทองธานีซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่แล้วจะฝากขายตามศูนย์โอท็อป ต่างๆ เป็นหลักโดยเรายังไม่มีหน้าร้านแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังทำช่องทางการตลาดในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าพอสมควร โดยเราแผนการตลาดพุ่งเป้าไปจับที่กลุ่มลูกค้าในวัยทำงานถึงผู้สูงอาย

“ในส่วนของความสำเร็จของการ ทำการตลาดนั้นเราทำการตลาดได้เป็นที่น่าพึงพอใจพอสมควรถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ประมาณ 70% โดยผลิตภัณฑ์ของเราใครที่ได้ ซื้อไปทดลองใช้แล้ว ก็จะมีการสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”

การตลาดในอนาคตนั้น ธนัทพร กล่าวว่า ได้วางแผนทำการศึกษาวิจัย ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำมันนกกระจอกเทศนั้นมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์อย่างมากมายจึงทำให้เราสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องและ มากมาย ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าการตลาดจะสามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่องและสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ในอนาคต

ล่าสุดได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นน้ำมันนกกระจอกเทศสกัดบรรจุแคปซูล เพื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับดูแลบำรุงรักษาสุขภาพ ซึ่งจะ เป็นการเจาะกลุ่มตลาดในกลุ่มคนที่รักสุขภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการวิจัยและพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันนกกระจอกเทศบรรจุแคปซูลที่มีคุณภาพดีและมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศนั้น มีแนวคิดอยู่แล้วและตั้งใจที่จะทำส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเน้นทำการตลาดในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักของคนไทยให้มากๆ เสียก่อนจึงค่อยวางแผนส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 ปี

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราจำหน่ายอยู่ในขณะนี้จะประกอบไปด้วย สปาน้ำมันนกกระจอกเทศ สบู่น้ำมันนกกระจอกเทศ สบู่กลีเซอรีน โดยเฉพาะสบู่นั้นมีให้เลือกหลายกลิ่นและมีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายชนิด

ใครที่สนใจในผลิตภัณฑ์ ก็สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 09-9429-9246