posttoday

ค่ายรถญี่ป่น เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง

13 พฤษภาคม 2554

โตโยต้า มาสด้า นิสสัน ส่งสัญญาณเริ่มกลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้ง หลังปัญหาเรื่องชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเริ่มคลี่คลาย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผย ว่าตั้งแต่วันที 23 พ.ค.2554  โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสำโรง โรงงานเกตเวย์ และโรงงานบ้านโพธิ์ ทำให้เริ่มทำการผลิตได้ในระดับปกติ คือ ผลิตวันละ 2 กะ (16 ชม.) และมี โอเวอร์ไทม์อีกเล็กน้อย การกลับมาผลิตในระดับปกติครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ โตโยต้า ได้ประกาศลดกำลังการผลิตลง 70% ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการประกอบจากประเทศญี่ปุ่น จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  

โตโยต้า มาสด้า นิสสัน ส่งสัญญาณเริ่มกลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้ง หลังปัญหาเรื่องชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเริ่มคลี่คลาย
 
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผย ว่าตั้งแต่วันที 23 พ.ค.2554  โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสำโรง โรงงานเกตเวย์ และโรงงานบ้านโพธิ์ ทำให้เริ่มทำการผลิตได้ในระดับปกติ คือ ผลิตวันละ 2 กะ (16 ชม.) และมี โอเวอร์ไทม์อีกเล็กน้อย
 
การกลับมาผลิตในระดับปกติครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ โตโยต้า ได้ประกาศลดกำลังการผลิตลง 70% ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการประกอบจากประเทศญี่ปุ่น จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 
 

ค่ายรถญี่ป่น เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง โตโยต้า พรีอุส

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประเมินสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาทุกด้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน ในการฟื้นฟูกำลังการผลิต ทำให้สามารถจัดส่งชิ้นส่วนมายังโตโยต้า ได้รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ โรงงานทั้ง 3 แห่ง สามารถกลับมาผลิตได้ในระดับปกติอีกครั้ง

รายงานข่าวจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การกลับมาผลิตได้ตามปกติในครั้งนี้ จะทำให้โตโยต้าสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าได้เร็วขึ้นจากปัจจุบันที่มียอดรอส่งมอบนานถึง 2-5 เดือน ขึ้นอยู่กับ รุ่น และสีของรถ ที่ลูกค้าต้องการ

ด้านนาย โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทแม่ได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของการส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่มาประกอบรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้ในขณะนี้โรงงานประกอบรถมาสด้า มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากเดิมที่ลดกำลังการผลิตลงเหลือ 50% ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุที่บริษัทแม่ให้การสนับสนุนชิ้นส่วนอะไหล่ ในการประกอบรถให้กับมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)  เนื่องจากยอดจำหน่ายมาสด้าในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานั้น มียอดขายในระดับสูงกว่า 3 พัน เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 3,141 หรือลดลงเล็กน้อยเพียงแค่ 9% ของช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นหากบริษัทไม่สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ ก็เป็นการยากที่จะรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

แหล่งข่าว จากบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทแม่เห็นความสำคัญกับตลาดประเทศไทยอย่างมาก จึงส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่ให้กับประเทศไทยก่อนตลาดอื่น เพื่อให้รักษาอัตราการเติบโตของยอดขายให้ได้

ค่ายรถญี่ป่น เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง มาสด้า 3 ใหม่

“การเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ ทำให้สามารถผลิตมาสด้า 2 ได้มากกว่าเดือนละ 2,000 คัน จากเดิมที่คาดว่าจะผลิตได้ไม่เกิน 1,000 คัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะยอดจำหน่ายมาสด้า 2 ในเดือนเม.ย.สูงถึง 2,054 คัน หากเราผลิตได้น้อย ทำให้ลูกค้าต้องรอส่งมอบนาน และอาจส่งผลต่อยอดจำหน่ายต่อไปได้ นอกจากนี้ มาสด้า 3 ใหม่ ก็จะเรี่มส่งมอบได้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เช่นกัน” แหล่งข่าว กล่าว

นายยูกิ กล่าวว่า การที่บริษัทแม่ช่วยเหลือในเรื่องของชิ้นส่วนอะไหล่ ทำให้ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ยังตั้งเป้ายอดจำหน่ายในปีนี้ไว้เท่าเดิมคือ 38,500 คัน โดยยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1.3 หมื่นคันตามเป้าที่ตั้งไว้

ด้านนายคาร์ลอส กอส์น ประธานนิสสัน เปิดเผยว่าบริษัทจะกลับมาผลิตรถยนต์ได้เต็มกำลังอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้

ค่ายรถญี่ป่น เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง นิสสัน มาร์ช

"แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น เมื่อเดือนมี.ค. ทำให้การดำเนินงานติดขัดอย่างมาก แต่เป็นอีกครั้งที่นิสสันพิสูจน์ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการฟื้นตัวขึ้นมา" นายกอส์นกล่าว

นิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น กลับมาทำกำไรไตรมาสแรกปีนี้ด้วยกำไร 30,800 ล้านเยนจากขาดทุน 11,600 ล้านเยนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายเดียวใน3รายใหญ่ของญี่ที่มีรายได้สุทธิดีขึ้น โดยโตโยต้ามีกำไรสุทธิลดลง 77% ขณะที่กำไรของฮอนด้าลดลง 38%