posttoday

'ไข่หวานบ้านซูชิ' ย้ำราคาเดิมเริ่มต้น10บาทสวนต้นทุน พร้อมแผนเพิ่มแฟรนไชส์ 200 แห่งทั่วไทย

23 มีนาคม 2565

ไข่หวานบ้านซูชิ ปรับรูปแบบ-เเบรนด์ พร้อมโตแกร่งในอนาคต ย้ำจุดแข็งสูตรดั้งเดิมราคาเริ่มต้น 10 บาท/70 หน้า เป้าปีนี้ขยายแฟรนไชส์เพิ่ม200 แห่งสาขาทั่วประเทศ

นางสาวอมรา ไทยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไข่หวานบ้านซูชิ” ดำเนินธุรกิจมานานกว่า6ปี ด้วยแนวคิดร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทซูชิแบบ “หน้าใหญ่ ไซส์แน่น” ด้วยจุดเด่นสูตรน้ำส้มและน้ำซอสโชยุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ รวมถึงกลยุทธ์ราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 10 บาท มีกว่า 70 หน้าให้เลือก และในปัจจุบัน “ไข่หวานบ้านซูชิ” มีแฟรนไชส์กว่า 150 สาขาทั่วประเทศ

พร้อมเสริมว่า จากความชอบในอาหารญี่ปุ่นและรสชาติคุณภาพของไข่หวานบ้านซูชิ จึงได้เริ่มเจรจาขอซื้อแบรนด์ “ไข่หวานบ้านซูชิ” จากผู้บริหารเดิม คือ นางสาวปุณิกา ธรรมขันธ์ หรือ คุณเจี๊ยบ ตั้งแต่ปี 2563 ผ่านบริษัท ที เอช เค โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และในนาม บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นบริษัทฯ ในเครือรับหน้าที่บริหารงาน โดยตั้งแต่ วันที่ 23 กันยายน 2563 ผู้บริหารเดิมได้ให้สิทธิ์ขาดในแบรนด์สินค้า เครื่องหมายทางการค้า ตลอดจนสูตรลับ สูตรซอส สูตรน้ำจิ้ม ตลอดจนแหล่งวัตถุดิบ ความลับ พร้อมโอนมาให้ในการบริหารของ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งหมด (ผู้บริหารที่ขายสิทธิ์เดิม จะไม่สามารถประกอบธุรกิจ บริการอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน)

นางสาวอมรา กล่าวอีกว่า “ไข่หวานบ้านซูชิ” ได้เริ่มบริหารงาน ผ่านคณะผู้บริหารชุดใหม่ จึงได้มุ่งมั่นในมาตรฐานเดิม และเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพอาหาร การขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปทั่วประเทศ เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน โดย เราได้ย้ายศูนย์ในการฝึกอบรมจากเดิมที่เมืองทองธานีมาที่ใหม่ ศูนย์ใหญ่ครบวงจร ไข่หวานบ้านซูชิเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา พร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2565 (โดยตามสัญญาจากผู้บริหารเดิมให้ใช้ที่สาขาเมืองทองไปก่อน)

ดังนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เดินหน้าผลักดันแบรนด์ “ไข่หวานบ้านซูชิ” ให้เติบโต จะเห็นได้จากสถานการณ์โควิดที่ผ่าน ทางบริษัทฯ ไม่เคยทอดทิ้งแฟรนไชส์ และเพิ่มการบริหารแฟรนไชส์จากเดิมที่ 87 สาขา มาที่ 150 สาขาภายในระยะเวลา 2 ปี เราได้ติดตามสอบถามกลุ่มแฟรนไชส์ตลอดระยะเวลา 2 ปี และในปีนี้ “ไข่หวานบ้านซูชิ” พร้อมขยายตลาด และครอบครัว “ไข่หวานบ้านซูชิ” ให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ “ไข่หวานบ้านซูชิ” ยังได้ปรับแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น วางแผนการตลาด พร้อมเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดด มองถึงช่องว่างทางการตลาดและกลุ่มผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นในอนาคต และเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งเรามองถึงผลักดันแบรนด์ “ไข่หวานบ้านซูชิ” ให้เติบโตและแข็งแรง พร้อมขยายกลุ่มแฟรนไซส์ให้ได้ 200 สาขาภายในปี 2565

พร้อมวางแผนเปิดศูนย์อบรม “ไข่หวานบ้านซูชิ” ที่มาพร้อมร้านต้นแบบขนาดใหญ่ มาตรฐานรองรับผู้บริโภคที่ชอบนั่งทานในร้าน และระบบ Drive Thru สำหรับผู้ที่ซื้อกลับบ้านแบบสะดวกรวดเร็ว

“ไข่หวานบ้านซูชิ ภายใต้การการบริหารจากผู้บริหารชุดใหม่ ให้ความมั่นใจว่าจากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ในการดำเนินงาน ขยายธุรกิจเพื่อความมั่งคงมาโดยตลอด และประการสำคัญ “ไข่หวานบ้านซูชิ” ยังคงเป็นสูตรลับเฉพาะ มีเพียงเราเท่านั้น หากแต่มีการเติบโตมากขึ้น และย้ายศูนย์จากเมืองทองธานีมาที่ ศูนย์ใหญ่ครบวงจร ไข่หวานบ้านซูชิเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราในเดือนเมษายน 2565 นี้" นางสาวอมรา กล่าว

สำหรับโอกาสธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ข้อมูลอ้างอิงจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร กรุงเทพฯ) ได้ทำการสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยปี 64 ถึงแม้มีการระบาดของโควิด-19 ในไทยต่อเนื่องแต่จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นกลับเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวน 4,370 ร้าน (ไม่รวมร้านอาหารที่ปิดชั่วคราวเพราะผลกระทบโควิด-19) ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบปี 63 ที่มี 4,094 ร้าน

โดยอยู่ในต่างจังหวัด 2,297 ร้าน เพิ่มขึ้น 15.5% จากปี 63 ที่มี 1,989 ร้าน และในกรุงเทพฯ 2,073 ร้าน ลดลง 1.5% จากปี 63 ที่มี 2,105 ร้าน นับเป็นครั้งแรกที่ร้านในต่างจังหวัดมีจำนวนแซงหน้าในกรุงเทพฯ สำหรับประเภทร้านที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษคือ ร้านซูชิ เพิ่มถึง 342 ร้าน รวม 1,196 ร้าน โดยเฉพาะการเพิ่มสาขาแบบแฟรนไชส์ ตามด้วยภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น 197 ร้าน รวม 1,071 ร้าน ร้านราเมง 80 ร้าน รวม 459 ร้าน เป็นต้น