posttoday

ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น หลังคลายกังวลโอไมครอน

15 ธันวาคม 2564

สนพ. จับทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังตลาดเริ่มคลายกังวลโอไมครอน เชื่อดีมานด์เพิ่มเล็กน้อยไม่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังตลาดคลายความกังวลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่บริษัท BioNTech และ Pfizer ออกมาแถลงว่าการฉีดวัคซีน Pfizer 3 โดส จะสามารถต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้

ทั้งนี้หลายประเทศในกลุ่มยุโรปเริ่มบังคับใช้มาตรการปิดพรมแดนและกำหนดข้อจำกัดในการเดินทางจากประเทศอื่นๆ เพื่อควบคุมและลดอัตราการแพร่ระบาด โดยล่าสุดอังกฤษยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ทำให้ตลาดยังคงต้องจับตาในประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ตามภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 6 – 12 ธันวาคม 2564) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 72.84 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 71.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 4.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ โดย ตลาดเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน  ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง และจะมีผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลังทั้ง 2 ฝ่ายยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้อิหร่านยังคงไม่สามารถกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ วันที่ 3 ธ.ค 64 ปรับตัวลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากความคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ท่ามกลางอุปทานที่ยังตึงตัว

สำหรับราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคเอเชีย  น้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และ 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 87.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  84.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 85.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงหนุนจากความกังวลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ลดลง แม้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้น International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. 64 ลดลง 0.32 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 11.96 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ส่วนราคาน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 85.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 3.63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลที่ลดลงจากญี่ปุ่น รวมถึงตลาดคลายความกังวลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮ่องกงที่มีการนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นกว่า 7.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ด้านปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.17 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 33.7581 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.84 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.68 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.01 บาท/ลิตร  โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2564 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 35,886 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 37,519 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ -1,633 ล้านบาท (บัญชีน้ำมัน 20,198  ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี  -21,831 ล้านบาท)