posttoday

‘ศุภชัย’ ลั่นเวที COP26 นำซีพีสู่องค์กร Net Zero

09 พฤศจิกายน 2564

‘ศุภชัย’ร่วมเวทีคู่ขนาน COP26 ประกาศนำ กลุ่มซีพี สู่องค์กร Zero food Waste และ Zero Emission ภายในปี 2030พร้อมชักชวนภาคเอกชนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสร้างความยั่งยืน

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่าได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ“ Business Leaders to Share Vision and Experiences on Net-zero Transformation” ซึ่งอยู่ในการประชุม รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ สมัยที่ 26 (COP26)  เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักรโดยประเทศไทยได้จัดกิจกรรมคู่ ขนาน Climate Action Leader Forum 2021 ผ่านระบบออนไลน์ ณ ศาลาไทย (Thai Pavilion) บนเวที Thailand Minister’s Climate Talk and Business Leaders to Share Vision and Experiences on Net-zero Transformationเพื่อระดมความคิดผู้นำในองค์กรชั้ นนำของประเทศไทยทั้งหน่ วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันต่าง ๆ เกี่ยวกับการสานต่อเป้ าหมายควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้ เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส รวมไปถึงความมุ่งมั่นสู่การปล่ อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในการนี้

ทั้งนี้ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่ นของเครือซีพีที่มีต่อภารกิ จสำคัญของโลกในการร่วมลดโลกร้อน โดยกล่าวว่าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังอยู่ ในจุดที่กำลังเผชิญหน้ากับปั ญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิ อากาศผลกระทบต่างๆ ที่มาจากภาวะโลกร้อนจะส่งผลต่ อกระบวนการผลิตเพื่อบริโภคท่ ามกลางจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราของเสี ยจากกระบวนการผลิตและการปล่อยก๊ าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น แนวโน้มที่รอไม่ได้นี้ส่งผลให้ ภาคธุรกิจและทุกอุตสาหกรรมต้ องเร่งร่วมมือกันรับผิ ดชอบในการสร้างความยั่งยืน ดำเนินการและมุ่งมั่นสู่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุ ทธิเป็นศูนย์ให้ได้

?นอกจากนี้ในฐานะที่เครือซีพีเป็นหนึ่ งในสมาชิกขององค์กรผู้นำด้ านความยั่งยืนโลก  (UN Global Compact Lead) จากสหประชาชาติ ซีพีได้กำหนดเป้าหมายเพื่อมุ่ งสู่องค์กร Zero food Waste และ Zero Emission ภายในปี 2030 โดยขณะนี้ได้เตรียมทุกอย่างที่ ทำได้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนี้ รวมถึงการก้าวเข้าสู่โอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนด้ วย โดยธุรกิจของเครือซีพีได้เปลี่ ยนแปลงและปรับตัวสู่รู ปแบบการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยื นในหลายมิติ ทั้งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก โทรคมนาคม

ตลอดจนการดำเนินธุรกิจใน 21 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ สำหรับอุตสาหกรรมด้านการเกษตร ซีพีได้ปรับตัวสู่การดำเนิ นการบนความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุ ปทานที่จะต้องสร้างความร่วมมื อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักรู้และมี แรงจูงใจในการพัฒนาธุรกิจเพื่ อความยั่งยืนไปด้วยกัน

?นายศุภชัย กล่าวว่า ภาคธุรกิจจำนวนมากต่างพยายามที่ จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆจะมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยจั ดการในเรื่องเศรษฐกิจและความยั่ งยืนได้มากขึ้น เช่น การทำฟาร์มอัจฉริยะ การใช้ระบบอัตโนมัติ ในกระบวนการผลิต การใช้พลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการพัฒนาแพลทฟอร์มและโซลู ชั่นต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสที่จะช่วยพลิกวิ กฤติครั้งนี้ให้ได้ แม้เราจะตั้งคำถามถึงสิ่งที่ ทำวันนี้ว่ายังไม่เห็นผลชัดเจน แต่การทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ จำเป็นต้องหาตัวเลขต่างๆมาบอกเรา ในเมื่อวันนี้วิถีที่มนุษย์บริ โภค การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ได้สร้างก๊าซเรื อนกระจกและของเสียออกมาซึ่งทั้ งหมดไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน

?"ผมเชื่อว่าในทุกวิกฤติย่อมมี โอกาส ในวิกฤติด้านการเปลี่ ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศนี้ จะทำให้มีโอกาสสร้ างความยั่งยืน จัดการกับผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่ อโลกได้ ดังน้ันภาคธุรกิจควรลงทุนอย่ างจริงจัง ไม่เพียงแต่ลงทุนในเรื่องพลั งงานหมุนเวียนเท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้ องอื่นๆที่ต้องลงทุนต่อไปเพื่อดำเนิ นการและรับผิดชอบว่าภาคธุรกิ จจะไม่ปล่อยมลพิษมากขึ้น ซึ่งเครือซีพีหวังว่ าเราจะสามารถแบ่งปันทั้งบทเรี ยนและความสำเร็จในการพัฒนาธุรกิ จที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมที่ เกี่ยวข้องต่อไป" นายศุภชัยกล่าว 

?ด้านนายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวบนเวทีคู่ขนาน COP26 ระบุว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะองค์กรภาคเอกชนที่ดำเนิ นธุรกิจมาครบ 100 ปี ได้ตั้งเป้าหมายการเป็นองค์ การที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุ ทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกั นของทุกบริษัทในเครือฯ ที่จะร่วมกันรักษาอุณหภูมิ ของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ในแต่ละกลุ่มธุรกิ จในเครือฯ ได้ดำเนินโครงการลดก๊าซเรื อนกระจกตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่ างเป็นรูปธรรม  ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การปลูกพืชโดยใช้เทคโนโลยี แบบแม่นยำ การใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้ อม การใช้พลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงการนำของเสียกับมาเป็ นพลังงาน จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ธุ รกิจของเครือซีพีปล่อยก๊าซเรื อนกระจกต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ ยของอุตสาหกรรมทั่วโลก