posttoday

โพลล์ส.อ.ท.หนุนรัฐเร่งเปิดประเทศต.ค.นี้ ชงพักหนี้-หยุดดอกเบี้ย 6 เดือน

30 กันยายน 2564

ซีอีโอภาคอุตสาหกรรม เชียร์รัฐบาลเปิดประเทศ-คลายล็อกดาวน์- ลดเคอร์ฟิวส์ หวังให้เศรษฐกิจเดินหน้า ต.ค.-พ.ย.นี้ เสนอเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยว พักหนี้ยาว6 เดือน

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 10 ในเดือนกันยายน 2564 ภายใต้หัวข้อ “ภาคอุตสาหกรรมพร้อมเปิดประเทศแล้วหรือยัง?” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการ  ล็อกดาวน์ ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ โดยขอให้ภาครัฐดำเนินนโยบายที่มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้นและบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ภาครัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการพักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ภาคเอกชน รวมทั้งการขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวเพื่อให้ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิง เปิดให้บริการได้ พร้อมแนะภาคเอกชนเร่งปรับ Business Model ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงหลังโควิด-19

โพลล์ส.อ.ท.หนุนรัฐเร่งเปิดประเทศต.ค.นี้  ชงพักหนี้-หยุดดอกเบี้ย 6 เดือน

ทั้งนี้การสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 10 จำนวน 7 คำถาม ดังนี้ 

1.ท่านเห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนนี้ หรือไม่ พบว่า อันดับที่ 1  เห็นด้วย 78.0%  อันดับที่ 2  ไม่เห็นด้วย 22.0%   2. ปัจจัยใดที่ต้องนำมาพิจารณาในการเปิดประเทศ  พบวาอันดับที่ 1 อัตราการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ให้แก่ประชาชน ไม่ต่ำกว่า 70% 86.0%  อันดับที่ 2  มาตรการคัดกรอง ตรวจติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศ 66.7% อันดับที่ 3  ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน 62.7% และ อันดับที่ 4  ความพร้อมด้านระบบสาธารณสุขในการรองรับผู้ติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ 59.3%

3.ภาครัฐควรดำเนินนโยบายการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 และดูแลเศรษฐกิจอย่างไร พบว่า อันดับที่ 1  ผ่อนคลายภาคธุรกิจและบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็น 73.3%  อันดับที่ 2: เข้มงวด ในการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคทุกช่องทาง 14.0%  อันดับที่ 3  เร่งเปิดประเทศ โดยให้ความสำคัญด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นสำคัญ 12.7%

โพลล์ส.อ.ท.หนุนรัฐเร่งเปิดประเทศต.ค.นี้  ชงพักหนี้-หยุดดอกเบี้ย 6 เดือน

4.แนวทางการเปิดประเทศแบบใด ที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน  พบว่า อันดับที่ 1  เปิดให้อยู่ในพื้นที่ Sandbox 14 วัน หากไม่พบเชื้อหลัง 14 วัน สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ 44.7%   อันดับที่ 2 เปิดให้เดินทางได้ทั่วประเทศ ในรูปแบบการจับคู่ระหว่างประเทศ (Travel Bubble) โดยไม่ต้องกักตัว 26.0%   อันดับที่ 3  เปิดเฉพาะพื้นที่ Sandbox เท่านั้น ห้ามออกนอกพื้นที่ 16.7% และอันดับที่ 4  เปิดให้เดินทางได้ทั่วประเทศ แต่ต้องผ่านการกักตัวในสถานที่กักตัว 14 วัน 12.6%

5.การเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ รัฐควรให้ความสำคัญในเรื่องใด พบว่าอันดับที่ 1  การเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ Sandbox 70.0% อันดับที่ 2  การสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน 69.3%  อันดับที่ 3  ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีในการติดตามและเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศ 67.3% อันดับที่ 4  ความพร้อมในการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR และการจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit 63.3%

6. หลังเปิดประเทศ รัฐควรมีการส่งเสริมอย่างไร  พบว่าอันดับที่ 1 พักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ย สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นระยะเวลา 6 เดือน 76.0%  อันดับที่ 2 ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว และผ่อนผันให้ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิงเปิดให้บริการได้ 74.0%  อันดับที่ 3  ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการจัดงาน Exhibition และการประชุมในประเทศ 54.0% และอันดับที่ 4  ลดค่าน้ำ ค่าไฟ อุดหนุนค่าเช่า ให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง 50.7%

7. ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศอย่างไร พบว่า อันดับที่ 1 ปรับ Business Model ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง 73.3%  อันดับที่ 2  นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ 71.3%  อันดับที่ 3  พัฒนาสินค้าและบริการที่ให้ความสำคัญด้านสุขอนามัย และการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค 66.0%  อันดับที่ 4  ปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยง 57.3%